xs
xsm
sm
md
lg

ฟันไม่เลี้ยง! ผู้การฯ นครศรีธรรมราชลงดาบ ตร.ทุ่งสงเมาแล้วขับชนชาวบ้านสาหัส 1 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครศรีธรรมราช – ผู้การฯ นครศรีธรรมราช ชี้แจงเหตุ ตร.ทุ่งสง เมาแล้วขับรถชนดะ 3 ครั้ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน ระบุไม่มีการปกป้องตำรวจที่ทำผิด พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบทั้งคดีอาญาและคดีวินัย

วันนี้ (16 มิ.ย.) จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน 3 คันซ้อน ที่ถนนเสริมชาติ ซอย 5 เขตเทศบาลเมืองทุ่งสง เป็นรถยนต์ยนต์จำนวน 2 คัน และรถ จยย. 1 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ นางพรทิพย์ ชลวิจิตร อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน ขคข 383 นครศรีธรรมราช ถูกนำส่ง รพ.ทุ่งสง และมี น.ส.ปิยะกมล ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีเทา ทะเบียน 2ขต-6804 กทม. โดยมีคู่กรณีเป็น ด.ต.วิจารณ์ แสงช่วย ผู้ขับขี่ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 4กง-8428 กทม.ได้รับบาดเจ็บนำตัวส่ง รพ.ทุ่งสง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กรณีมีคลิปลงในโซเชียลมีเดีย เจ้าหน้าที่ตำรวจเมาแล้วขับรถไปชนรถชาวบ้านแล้วหลบหนี จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นตำรวจ สภ.ทุ่งสง และได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีนี้ เราพบว่าเป็นตำรวจจริง เป็นตำรวจในสังกัดจังหวัดนครศรีธรรมราช กรณีนี้ก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือในกรณีของการทำผิดกฎหมายขับรถชน มีผู้ได้รับบาดเจ็บมีทรัพย์สินเสียหาย ตรงนี้ในเรื่องของคดี เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนไปที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายในกรณีนี้มีทั้งหมด 3 ราย

ส่วนผู้ต้องหา ด.ต.วิจารณ์ นั้นก่อนเกิดเหตุไปร่วมงานศพที่วัดแห่งหนึ่ง แล้วขับรถออกจากวัดได้ชนรถคันอื่นที่ลานจอดรถแล้วหนีไป ซึ่งเคสนี้ไม่ได้แจ้งความ จากนั้นไปชนรถรายที่ 2 เป็นรถ จยย.แต่ยังไม่หยุดจนไปชนรายที่ 3 ซึ่งเป็นรถยนต์เก๋งแล้วจอดอยู่ตรงนั้น โดยเจ้าตัวพยายามหลบหนีแต่ถูกชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้ได้ เบื้องต้นทราบว่าเป็นตำรวจจริง แต่เนื่องจากว่าเขาก็มีบาดแผลต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ จึงได้ส่งไปรักษาตัว แต่ตรงนี้ทางตำรวจได้แจ้งให้ทางคุณหมอตรวจเลือดของตำรวจรายนี้เพื่อตรวจหาสารเสพติดแล้วก็ปริมาณแอลกอฮอล์ว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่

วันนี้อยากจะยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ในกรณีที่ตำรวจกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายว่าจะดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีการช่วยเหลือกัน คดีอาญาก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย เมื่อผลตรวจโลหิตทางการแพร่ออกมาว่าผิดก็จะว่าไปตามผิดทั้งคดีอาญาและทางวินัย นอกจากนี้ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากผิดจริงก็จะมีการลงโทษทางวินัยในขั้นสูงสุดตามตามระเบียบตามเกณฑ์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด ในกรณีนี้ท่าน ผบ.ตร.มีนโยบายที่จะแก้ไขในสิ่งที่ผิดแล้วก็พยายามให้ขวัญกำลังใจกับตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ทำความดี มีการให้รางวัลตำรวจที่ทำความดีเป็นประจำทุกเดือนเพื่อสร้างภาพลักษณ์ตำรวจให้ดีขึ้นในสายตาพี่น้องประชาชน

“กรณีนี้ที่ตำรวจทำความผิดเราก็ต้องยอมรับว่าตำรวจทำผิด ก็ต้องแก้ไข แล้วคนทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่งตำรวจทำผิดเองโทษตรงนี้มากกว่าพี่น้องประชาชนทั่วไป มากกว่าชาวบ้าน นอกจากจะมีคดีอาญาแล้วก็มีคดีวินัยไปด้วย โดยตำรวจที่ก่อเหตุนั้นเป็นการไปงานส่วนตัวไม่ได้เมาขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องว่าไปตามความผิด” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น