พังงา - เตรียมกู้เรือ เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้น “หมู่เกาะสุรินทร์” จ.พังงา วันนี้ ( 13 มิ.ย.) เผยผลสำรวจพบแนวปะการังเสียหาย150 ตารางเมตร และ 80% เป็นปะการังสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นชนิดหายาก และ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ
จากกรณีเรือขนส่งสินค้า สัญชาติเมียนมา "MV.AYAR LINN" เกยตื้นบนแนวปะการังที่ เกาะสุรินทร์เหนือ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา จนทำให้แนวปะการังได้รับความเสียหายเป็นทางยาย 75 เมตร รวมเสียหายทั้งหมด 150 ตารางเมตร นอกจากนั้นยังมีขยะ และสิ่งของอีกจำนวนมากที่ตกลงไปปกคลุมแนวปะการัง
นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้ระบุว่า จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น พบว่าแนวปะการังถูก ทำลายเป็นแนวยาว 75 เมตร คิดเป็นพื้นที่ความเสียหายรวม 150 ตารางเมตร และจากการสำรวจพบว่า ปะการังสีน้ำเงิน (Heliopora coerulea) ซึ่งเป็นปะการังชนิดที่หายากและมีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ได้รับความเสียหายมากที่สุดถึง 80% ของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
รองลงมาคือปะการังเขากวาง (Acropora sp.) 15% และ ปะการังโขด (Porites lutea) 5% โดยจุดที่เสียหายหนักที่สุดคือบริเวณที่เรือเกยตื้นและทับแนวปะการังโดยตรง และหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวลูกเรือไว้ดำเนินคดีทันที 7 คน พื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับปฏิบัติการกู้เรือ นั้นทางอุทยานฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังคนและอุปกรณ์ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มปฏิบัติการกู้เรือได้ในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้ ถ้าคลื่นลมสงบ ซึ่งการกู้เรือจะต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงมรสุม คลื่นลมแรง
โดย อุทยานฯ ได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วน รวมถึงนักวิชาการและเครือข่ายนักดำน้ำ เพื่อวางแผนสำรวจประเมินมูลค่าความเสียหายอย่างละเอียด และเตรียมการปลูกปะการังทดแทนในพื้นที่ที่เสียหาย นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการเก็บขยะที่หลุดออกจากเรือ เช่น เศษกระดาษลัง ผ้า และยางรถยนต์ ออกจากแนวปะการัง
ปัจจุบัน พื้นที่อ่าวจากบริเวณที่เกิดเหตุได้ถูก ประกาศปิดการท่องเที่ยวชั่วคราว เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่และป้องกันการรบกวนกระบวนการฟื้นฟูระบบนิเวศใต้น้ำอีกทางหนึ่งด้วย