ยะลา - สวนหมอกเบตง จ.ยะลา เริ่มเก็บผลผลิตทุเรียนมูซังคิงส่งขายตลาดออนไลน์ ขณะที่เจ้าของสวนเป็นปลื้มผลผลิตสร้างรายได้งามทั้งเจ้าของและคนในชุมชน
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่สวนหมอกเบตง ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งมีเนื้อที่ 1,200 ไร่ พื้นที่ปลูกสูงกว่าระดับน้ำทะเล 400 เมตร นับว่าเป็นสวนทุเรียนที่มีการปลูกทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิงเป็นจำนวนมาก โดยได้ทำการตลาดทางออนไลน์ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าในการขายมากยิ่งขึ้น และยังทำให้คนที่อยากลองชิมสามารถสั่งซื้อไปลิ้มลองได้ ส่วนราคาทุเรียนพันธ์มูซังคิงของบ้านสวนหมอกเบตง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนในช่วงแรกเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งผลผลิตเมื่อ 5 ปีที่แล้วราคาค่อนข้างสูงมาก ทำให้คนที่อยากกินได้กินเฉพาะกลุ่ม แต่ปัจจุบันผลผลิตค่อนข้างมาก ทำให้ทุเรียนมูซังคิงที่สวนได้ลดลงมา ทำให้คนแตะได้มากยิ่งขึ้น
โดยทุเรียนมูซังคิง เกรด A น้ำหนัก 3-4 กก. อยู่ที่ กก.ละ 400 บาท ส่วนเกรด B อยู่ที่ กก.ละ 300 บาท และเกรด C อยู่ที่ กก.ละ 200 บาท ซึ่งปีนี้ที่บ้านสวนหมอกเบตงได้จัดโปรโมชั่น โดยทางสวนจัดให้ 3 กก. ประมาณ 2-3 ลูก ในราคา 555 บาทรวมส่ง ส่วนลูกป๊อกแป๊กหมายถึงทุเรียนมูซังคิงลูกเล็ก เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินลูกเล็ก ยุมพอดี ๆ รสชาติหวานมัน
นางสาวนูเรีย อาแว ฝ่ายขายบ้านสวนหมอก กล่าวว่า การทำทุเรียนไม่ใช่รายได้ที่จะได้แต่เจ้าของสวน แต่ยังทำให้คนในชุมชนในพื้นที่ได้มีอาชีพเสริม และตลอดระยะเวลาในการปลูกทุเรียนจะมีเกษตรกรดูแลสวนตลอดทั้งปีจนออกผลผลิต และทุเรียนจะต้องมีการดูแลในทุกวัน และในช่วงทุเรียนออกผลผลิตเยาวชนหรือคนในชุมชนก็จะมีรายได้ไม่ว่าจะเป็นแอดมินเพจ คนแพ็กของ คนเก็บ คนตัด ทำให้ในช่วงเวลาขายทุเรียนมูซังคิงเกือบ 2 เดือน ทำให้คนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
นายชูศักดิ์ หวั่นสมัน ชาวบ้านที่มารับจ้างตัดเก็บทุเรียน กล่าวว่า ทุเรียนมูซังคิงกับทุเรียนบ้าน มันดูไม่ยาก มูซังคิงสังเกตได้จากเส้นพู 5 เส้นเป็นจุดสังเกตที่สำคัญที่สุดในการตัด ลูกทุเรียนผิวต้องแห้ง ขั้วต้องแข็ง บวม และเคาะ หากเป็นทุเรียนสุกเสียงเคาะจะหลวม ๆ เบา และต้องดูโดยรวมของต้นทุเรียนด้วย รวมทั้งสถานที่ปลูกด้วย ส่วนรสชาติของทุเรียนตอนตัดแบบตัดขายมาเลเซียเขาจะชอบลูกเล็ก ส่วนคนไทยชอบลูกเคาะ ซึ่งจะได้รสชาติคนละแบบกัน โดยทุเรียนมูซังคิงจะมีรสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คือ หวานมัน หอม หวานนำขมตาม เนื้อเนียนละเอียด ไม่มีเสี้ยน และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว