กระบี่ - นักธุรกิจชื่อดังกระบี่ ควัก 2 หมื่น ประมูลภาพวาด “ปลากัดอมไข่กระบี่” หนึ่งเดียวในโลก ผลงาน “พจนา เกียรติประไพ” ในงานเสวนา "มองอนาคตปลากัดอมไข่กระบี่ กับความอยู่รอดบนถิ่นอาศัยนอกเขตอนุรักษ์”
วันนี้ ( 12 มิ.ย.68) สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย จัดงานเสวนาเชิงวิชาการ “มองอนาคตปลากัดอมไข่กระบี่ กับความอยู่รอดบนถิ่นอาศัยนอกเขตอนุรักษ์” จัดขึ้นภายใต้โครงการ “การมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อ ปกป้องปลากัดอมไข่กระบี่ (Betta simplex)” ซึ่งเป็นสัตว์หายากเฉพาะถิ่นที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically Endangered: CR) ตามบัญชีขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติหรือ IUCNRed List ณ ห้องประชุมธารา โรงแรมมาร์ริไทม์ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีนายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ รอง ผวจ.กระบี่ นายเจริญชัย ศรีสุวรรณ ประมงจังหวัดกระบี่ นายประเสริฐพงศ์ ศรนุว้ตร สส.บัญชีรายชื่อพรรค ปชช. และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ด้าน นางสาวขวัญข้าว สิงหเสนี ผู้อำนวยการสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า "ปลากัดอมไข่กระบี่" ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Betta simplex เป็นปลาเฉพาะถิ่นที่อาศัยอยู่ในลำธารเล็ก ๆ ตามแนวเทือกเขาหินปูนในจังหวัดกระบี่เท่านั้น ปลาเพศผู้จะมีสีสันที่สวยงามเช่นเดียวกับปลากัดอื่นๆ คือมีครีบชายน้ำ และ หางที่มีขอบสีดำและฟ้า นอกจากนั้นด้วยพฤติกรรมอันน่าทึ่งของปลาชนิดนี้คือ เมื่อแม่วางไข่พ่อปลาจะทำหน้าที่อมไข่และลูกๆไว้ในปากประมาณ 12-15 วัน ซึ่งในระหว่างนี้พ่อปลาจะไม่กินอาหารเลยโดยมีจำนวนตัวต่อครั้งที่ฟักออกมาประมาณ 25-50 ตัว นับเป็นความมหัศจรรย์ของพฤติกรรมที่หายากในปลา น้ำจืดของประเทศไทย และยิ่งตอกย้ำถึงคุณค่าทางธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม
ข้อมูลล่าสุดจากผลการสำรวจภาคสนาม พบว่า ปลากัดอมไข่กระบี่ มีแหล่งอาศัยตามธรรมชาติเพียงไม่กี่แห่งในเขต อ.เมืองกระบี่ และ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เท่านั้น โดยเฉพาะพื้นที่“คลองสระแก้ว” และ “พรุท่าปอม-คลองสองน้ำ” ที่ยังคงพบลูกและพ่อแม่พันธุ์ บ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์พื้นที่ต้นน้ำธรรมชาติจากภูเขาหินปูน และจากข้อมูลพบว่ามีที่เดียวในโลก
ปัจจุบันภูเขาหินปูนในเขตจังหวัดกระบี่หลายแห่งมีความ เสี่ยงต่อการถูกทำลายจากอุตสาหกรรมหิน ซึ่งจะไม่เพียงกระทบต่อแหล่งอาศัยของปลากัดอมไข่กระบี่ แต่หมายถึงแหล่งต้นน้ำสำคัญที่ผลิตน้ำดิบของชาวกระบี่ด้วยเช่นกัน นอกจากการสูญเสียถิ่นอาศัยแล้ว อีกประเด็นที่ต้องมีการเฝ้าระวังคือการเสื่อมคุณภาพของน้ำและพื้นที่ริมน้ำ ในถิ่นอาศัย เพราะปลาชนิดนี้ต้องการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น น้ำด่าง ใส และ มีค่าออกซิเจนละลายสูง ซึ่งทำให้ไม่สามารถอยู่รอดในแหล่งน้ำทั่วไปได้เลย
ซึ่งการจะอนุรักษ์ปลาชนิดนี้นอกจากดูแลถิ่นอาศัยและ คุณภาพน้ำแล้ว ต้องดูแลรวมไปถึงพื้นที่ริมน้ำซึ่งมีพืชชนิดต่าง ๆ อาศัยอยู่และพืชในน้ำซึ่งปลาชนิดนี้ต้องใช้ อาศัยหลบภัยด้วย ซึ่งการรักษาคุณภาพน้ำให้ดีเพื่อปลากัดนั้นหมายถึงแหล่งน้ำดิบที่มีคุณภาพเพื่อใช้ในการ บริโภคและอุปโภคของชาวกระบี่ด้วย
อีกปัจจัยคุกคามที่สำคัญ คือการถูกจับเพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่และส่งขายในตลาดปลาสวยงาม โดยปัจจุบันนี้ แม้ว่าจะมีการห้ามส่งออกปลากัดอมไข่กระบี่ ไปขายต่างประเทศ แต่ก็ยังมีการจับเพื่อขายในประเทศอยู่ ซึ่งในส่วนนี้ควรมีการส่งเสริมให้เพาะปลากัดอมไข่กระบี่เพื่อป้อนตลาดปลาสวยงาม เพราะปลาชนิดนี้จริง ๆ แล้วเป็นปลาที่เพาะเลี้ยงไม่ยาก ซึ่งจะเป็นรายได้เสริมให้กับเกษตรกรในท้องที่อีกทางหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานเสวนาฯได้เปิดให้มีการประมูลภาพวาดปลากัดอมไข่กระบี่ ผลงานของศิลปิน พจนา เกียรติประไพ โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุด ได้แก่ “นายรอง ภูเก้าล้วน” นักธุรกิจโรงแรมชื่อดังของจังหวัดกระบี่และนายกสมาคมสมาคมศิลปินกระบี่ ราคา 20,000 บาท นอกจากนี้ทางนางลลิดา พันธุ์วิชาติกุล อดีตนายกสมาคมโรงแรม จ.กระบี่ ควักกระเป๋าสมทบอีก 5,000 บาท โดยเงินดังกล่าวนำเข้ากองทุนมูลนิธิสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติ