ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เอกชนภูเก็ต ยอมรับตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตช่วงโลว์ซีซั่น ยอดลด แบบ “ตกท้องช้าง” จีนหาย มั่นใจช่วงปลายไตรมาศ 3 นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมา ภายใต้เงื่อนไข ไม่มีข่าวร้ายมาบั่นความเชื่อมั่น ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เลิกอาศัยบุญเก่า
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานมูลนิธิท่องเที่ยวยั่งยืน และ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตในช่วงโลว์ซีซั่น ต้องยอมรับว่าในช่วงไตรมาศ 2 และ ไตรมาส 3 ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าภูเก็ตลดลง ในลักษณะแบบ “ตกท้องช้าง” ซึ่งถ้าเทียบกับปีก่อนๆพบว่ายอดนักท่องเที่ยวลดลงไปมาก หรือ ที่เรียกว่าเส้นกราฟ ตกท้องช้าง ที่ลึกกว่าทุกๆปี
สิ่งที่ผู้ประกอบการพยายามทำคือ ทำให้ “ท้องช้าง” ที่ตกลงไป ตื้นที่สุด ในอดีต ทางผู้ประกอบการเติมท้องช้างตื้นขึ้นมาโดยการ ทำตลาดจีน FIT ตลาดระยะสั้น ซึ่งเป็นตลาดที่อยู่ใกล้มากที่สุด เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย แต่ปัจจุบันตลาดจีนหายไปจากประเทศไทย มากถึง 24 % จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มีตัวเลขจำนวนมาก ทำให้ยอดตัวเลขที่หายไปเยอะมาก สภาพท้องช้างในช่วงไตรมาศที่ 2 ของปีนี้จึงลึกกว่าช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา
นายภูมิกิตติ์ กล่าวต่อไปว่า ยอมรับว่าภูเก็ต กำลังประสบปัญหาเรื่อง โลว์ซีซั่น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราก็ไม่ได้รอให้ปัญหาเกิดขึ้นมากกว่านี้ โดยการหาทางแก้ปัญหาหลายๆ วิธีด้วยกัน ไม่ว่ าจะเป็นการทำตลาดใหม่ การสร้างสิ่งใหม่ๆ รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการจัดอีเว้น ใหม่ๆ ร่วมทั้ง อื่นๆ อีกหลายวิธี
อย่างไรก็ตามปัจจุบันหลายคน มีความกังวล ในเรื่องของตลาดจีน เนื่องจากปีนี้ นักท่องเที่ยวชาวจีน หายไปจำนวนมาก แต่ในมุมมองของตนคิด ว่า จีนจะกลับมาอยู่ในระดับเท่ากับปกติก่อนที่จะหายไป ประมาณสิ้นไตรมาส 3 ของปีนี้ หรือประมาณเดือน ก.ย., ต.ค. 68 โดยกลุ่มที่เดินทางเข้ามาจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว FIT มากขึ้น เพราะจากตัวเลขที่โชว์ พบว่า จีนจากเมืองหลัก ยอดไม่ได้ตกมากนัก แต่ที่ยอดตกเยอะๆเป็นนักท่องเที่ยวจีนจากเมืองรอง ถ้ามีการสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน กลุ่มนักท่องเที่ยว FIT จากเมืองรอง ก็จะกลับมาเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตามการที่จีนจะกลับมาตามที่คาดการณ์ จะต้องอยู่บนพื้นฐาน ไม่มีข่าวร้ายที่มาบั่นความเชื่อมันของนักท่องเที่ยวชาวจีนเกิดขึ้นเพิ่มเติม และ ที่สำคัญคนในพื้นที่จะต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยโดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย ส่วนตลาดอื่น เช่นฮ่องกง ใต้หวัน เกาหลี ก็จะดีตามไปด้วย นอกจากนั้นเราจะต้องแก้ปัญหาเรื่องของไฟล์บินจากจีน ที่ปัจจุบันลดลงไปจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีสล็อตการบิน
นายภูมิกิตติ์ กล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ผู้ประกอบการมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยว และพยายามที่จะปรับตัวในเรื่องของการท่องเที่ยวเพื่อให้อยู่ต่อไปได้ หลายคนรู้แล้วว่า การท่องเที่ยวของภูเก็ต ณ เวลานี้จะอาศัยบุญเก่าอย่างเดียวไเหมือนในอดีตไม่ได้แล้ว เพราะในอดีตภูเก็ตอาศัยและใช้บุญเก่าเยอะมาก ทำให้ตอนนี้บุญเก่าไม่มีให้อาศัยแล้ว เราต้องสร้างบุญใหม่ ในการจัดการและแก้ปัญหาท่องเที่ยวแล้ว แม้บุญใหม่จะไม่เห็นผลในทันที แต่จะทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตยั่งยืนในอนาคต
ถึงเวลาแล้วที่ ผู้ประกอบการจำเป็นต้อง ยกระดับบริการ นำใช้เทคโนโลยีและ AI ให้เป็นเครื่องมือหลัก เน้นการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างแบรนด์ท้องถิ่นที่มีความหมาย และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ภูเก็ตยังเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยว แต่การทำให้ภูเก็ตไปต่อได้นั้น รัฐบาลต้องคำนึงถึงระบบสาธารณูปโภคที่เอื้อต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน และ ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวเอง