กระบี่ – ตำรวจกระบี่ รวบพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ในภาคใต้ พร้อมนักบินอีก 2 คน พร้อมยาบ้า 300,000 เม็ด ตบตาเจ้าหน้าที่ด้วยการซุกไว้ในกระสอบผ้า ขนมากับรถโดยสารจากภาคเหนือมายังภาคใต้ ได้ค่าจ้าง 300,000 บาท
วันนี้ ( 10 มิ.ย.68) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รรท.ผบก.ภ.จว.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ 3 ราย ประกอบด้วย นายสัมพัน ด้วงสกุล อายุ 54 ปี ที่อยู่ 22/10 หมู่ 1 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสงจ.สุราษฎร์ธานี นายสุรพล จะอือ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 43 ม.18 ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และนางสาวสุนารี ปะกู่ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 156 ม.18 ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พร้อมตรวจยึดของกลาง เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จำนวน 300,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน 3 กอ 3416 กรุงเทพฯ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
โดยก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.8 นำโดย พ.ต.ท.สุธน ทองแผน รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการส่งมอบยาบ้าที่ริมถนนสามแยกเขาต่อ ม.4 ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ จึงได้นำกำลังไปซุ่มดูอยู่ข้างที่เกิดเหตุ ถึงเวลาประมาณ 12.40 น.ของวันที่ 9 มิ.ย. ได้มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต มาจอดตรงที่เกิดเหตุ และได้มีผู้ต้องหา 2 คน ทราบชื่อต่อมา คือ นายสุรพล จะอือ อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี ปะกู่ อายุ 27 ปี ได้ลงจากรถทัวร์ และเดินมายกเอากระสอบใส่ผ้าจำนวน 2 กระสอบ (ภายในบรรจุยาบ้าของกลาง) ที่เก็บอยู่ในช่องเก็บของข้างรถทัวร์ จากนั้นได้มี นายสัมพัน ด้วงสกุล ซึ่งขับรถเก่งมารออยู่ได้เข้าไปช่วยยกกระสอบดังกล่าว ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้พร้อมของกลางดังกล่าว และได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ชุดจับกุมให้ข้อมูลว่า สำหรับนายสัมพัน เป็นผู้ค้ารายใหญ่ภาคใต้ ส่วนนายสุรพล และนางสาวสุนารี เป็นนักบิน หรือผู้ส่งยา โดยได้รับงานมาจากพ่อค้ารายใหญ่อีกทอดหนึ่ง ในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ โดยใช้รถโดยสารประจำทางในการขนส่ง ซึ่งจากตรวจสอบในกระเป๋ากระสอบ พบด้านบนมีเสื้อวางทับยาบ้าอยู่ด้านล่างเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่แต่สุดท้ายไม่รอด ถูกจับในที่สุด และทราบว่าการขนยาครั้งนี้ได้รับค้าจ้างถึง 3 แสนบาท
