ตรัง - คำสั่งห้ามรถสองชั้นวิ่งผ่านเขาพับผ้า สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว โดยเฉพาะรถบางสาย ที่เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย ต้องยอมจ้างรถบัสชั้นเดียวมารับผู้โดยสารที่เชิงเขา
วันนี้ (9 มิ.ย.) จากการที่กรมการขนส่งทางบก สั่งห้ามรถโดยสารสองชั้นวิ่งขึ้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 4 ตอนเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง มาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นมา ทำให้รถโดยสารประจำทางสายโกลก- ภูเก็ต และสายเบตง-ภูเก็ต ทั้งขาไปและขากลับ ซึ่งไม่สามารถเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นได้ เพราะผิดกฎหมาย และจะเป็นการวิ่งทับเส้นทางผู้อื่น แต่ยังจำเป็นต้องวิ่งรับส่งผู้โดยสาร จึงต้องจ้างรถอีกคัน ขนถ่ายผู้โดยสารจากบริเวณเชิงเขาอีกฟากหนึ่งไปส่งอีกฟากหนึ่ง ทำให้ต้องจ่ายค่าจ้างรถขนถ่ายผู้โดยสาร และมีต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก
นายศักดา จริงจิตร หจก.เที่ยงธรรมพูนผล ผู้รับสัมปทานสาย 775 ภูเก็ต-เบตง บอกว่า หลังกรมการขนส่งทางบกสั่งห้ามรถโดยสารสองชั้นวิ่งขึ้นเขาพับผ้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นมา ตนได้หยุดวิ่งรถมาตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม และเพิ่งได้กลับมาวิ่งได้ 2 วันคือ วันที่ 6 และ 8 มิถุนายน และต้องปรับลดจำนวนเที่ยวลงจากเดิมวันละ 2 เที่ยว คือ กลางวัน จากเบตงไปภูเก็ต และจากภูเก็ตไปเบตง 1 เที่ยว และกลางคืน ขากลับ ภูเก็ต- เบตง และเบตง- ภูเก็ต อีก 1 เที่ยว แต่ตอนนี้เหลือเพียงวันละ 1 เที่ยวเฉพาะกลางวันเท่านั้น และยังต้องจ้างรถบัสชั้นเดียวมารับผู้โดยสารริมถนนก่อนขึ้นเขาพับผ้า ทั้งฝั่งจังหวัดตรัง และจังหวัดพัทลุง มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้อีกวันละ 2,500 บาท
"ภาระตรงนี้ทำให้ขาดทุน และได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก แต่หากหยุดเดินรถ ก็ถูกผู้โดยสารร้องเรียน และสงสารผู้โดยสาร เพราะไม่มีรถประจำทางเดินทาง นอกจากนี้ หากวิ่งมาถึงเชิงเขาพับผ้าในช่วงกลางคืน จะต้องปลุกผู้โดยสารขณะที่กำลังนอนหลับ เพื่อย้ายมาขึ้นรถบัสชั้นเดียว ทำให้ไม่สะดวก และผู้โดยสารอาจไม่พอใจได้ และหากเป็นช่วงฝนตก ก็จะยิ่งอันตราย แต่หากยอมวิ่งเลี่ยงไม่ขึ้นเขาพับผ้า โดยไปใช้เส้นทางอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีฯ คนขับรถก็ไม่ชำนาญ กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ และจะเก็บค่าโดยสารเพิ่มก็ไม่ได้ เพราะเป็นภาระของผู้โดยสาร จึงกำลังรอดูคำตอบจากกรมการขนส่งทางบกว่า จะยกเลิกคำสั่งหรือไม่ หากล่าช้า ก็เตรียมร้องศาลปกครองเช่นกัน"
ขณะที่ผู้โดยสารส่วนหนึ่งก็บอกว่า พวกตนไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องสั่งห้ามรถสองชั้นขึ้นบนเขาพับผ้า เพราะไม่ได้อันตรายอะไรเลย ขนาดบางเส้นทางของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีความลาดชันสูงกว่านี้ และอันตรายกว่านี้ แต่กรมการขนส่งทางบก ก็ไม่ได้ห้ามวิ่ง