ศูนย์ข่าวภูเก็ต – เผยตัวเลข 5 เดือนแรกปี 68 นักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตกว่า 2.4 ล้านคน สร้างรายได้ 149,384 ล้านบาท พร้อมลุยตลาดใหม่ ในช่วงโลว์ฯ ทดแทนตลาดจีน คาดปลายไตรมาส 3 จีนกลับมา เร่งแก้ข้อกังวล รถติด ความไม่สะอาด กลิ่นกัญชา
นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางสาวศิริวรรณ สีหาราช ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต นายธนวัต อ่องเจริญ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ รศ. ดร. ชยนนท์ ภู่เจริญ รองคณบดี ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานมูลนิธิท่องเที่ยวยั่งยืน และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมอัปเดต สถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต หลังเกิดกระแสในสื่อโซเชียลที่ออกมาระบุ ว่า ภูเก็ตกำลังได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง และเกิดเหตุการณ์โลว์ซีซั่น ทั้งที่ภูเก็ตไม่มีช่วงโลว์ซีซั่นมาแล้วหลายปี
โดนนายธเนศ ได้กล่าวถึง ภาพรวมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในช่วง 5 เดือนแรก ของปี 2568 ว่า ขณะนี้สถานการณ์การท่องเที่ยวยังทรงตัว ท่ามกลางแรงกระแทกจากบางตลาด โดยเฉพาะเดือน พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวลดลง 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2567 โดยตลาดหลักอย่างตลาดจีน พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวหดตัวลงกว่า 48% ขณะที่ตลาดอื่น ๆ ยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ อินเดีย พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 59% ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 11%อังกฤษ เพิ่มขึ้น 23%) และ ตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้น 25 ทำให้ภาพรวมตัวเลขของนักท่องเที่ยวในภาพร่วมยังดีอยู่
และจากข้อมูลตัวเลขที่ผ่านด่านตรวจคนเข้ามาเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2568 พบว่าในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ต้อนรับนักท่องเที่ยวสะสมแล้วกว่า 2.4 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2567 จำนวน 8% โดยตลาดหลักที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ รัสเซีย พบว่าตัวเลขเพิ่มขึ้น 13% อินเดีย เพิ่มขึ้น 59% ยุโรป เพิ่มขึ้น 15% ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 15% ขณะที่ตลาดจีนยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว
ขณะที่ นางสาวศิริวรรณ สีหาราช ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวไทยในจังหวัดภูเก็ต ไตรมาสแรกพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม 2568 มีจำนวนเพิ่มขึ้นประมาณ 10% โดยเฉลี่ย และ เริ่มชลอตัวในเดือนเมษายน แต่ก็ยังอยู่ในอัตราบวก 1.8% ในด้านจำนวนนักท่องเที่ยว ส่วนด้านรายได้ด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งคนไทยและต่างประเทศ ตั้งแต่ มกราคมถึงมีนาคม 2568 รายได้ 149,384 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8.66% แยกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวไทย 11,368.60 ล้านบาท และ นักท่องเที่ยวต่างชาติ 138,016.10 ล้านบาท
ด้านนายธนวัต อ่องเจริญ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เผยว่า สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง ไตรมาส 2 และ 3 จำมีการชะลอตัว โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน แต่ไตรมาส 4 เชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามามีแนวโน้มกลับมาสดใสอย่างชัดเจน มีการจองล่าวหน้าเข้ามาอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะจากภูมิภาคยุโรป สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวนี้
ขณะที่นายธเนศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภูเก็ตพร้อมลุยกลยุทธ์ “New Market, New Segmentation” ในช่วงโลว์ซีซั่น โดยเน้นตลาดศักยภาพใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย และ ยุโรปตะวันออก รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่สนใจประสบการณ์เชิงสุขภาพ วัฒนธรรม และความยั่งยืน
ปีนี้ยังมีแผนอีเวนต์ระดับนานาชาติกว่า 15 รายการ ตั้งแต่กลางปี 2568 ยาวถึงต้นปี 2569 เช่น Phuket City Pride, Phuket Peranakan Festival, Phuket Lobster Festival, Phuket Vegetarian Festival, Thailand Biennale Phuket 2025 และ EDC Thailand ซึ่งจะช่วยสร้างสีสัน กระตุ้นการใช้จ่าย และขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ทั่วโลก
ด้าน รศ. ดร. ชยนนท์ ภู่เจริญ รองคณบดี ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เผยผลสำรวจจากบริษัทนำเที่ยวต่างชาติทั่วโลกกว่า 190 กว่าราย พบว่าภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม แม้จะมีข้อกังวลเรื่องจราจร ความสะอาด และ การจัดการขยะ หากยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลกในอนาคต
ขณะที่ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานมูลนิธิท่องเที่ยวยั่งยืน และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในยุคที่พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ผู้ประกอบการจำเป็นต้อง ยกระดับบริการ นำใช้เทคโนโลยีและ AI ให้เป็นเครื่องมือหลัก เน้นการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างแบรนด์ท้องถิ่นที่มีความหมาย และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภูเก็ตยังเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยว แต่การทำให้ภูเก็ตไปต่อได้นั้น รัฐบาลต้องคำนึงถึงระบบสาธารณูปโภคที่เอื้อต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน และผู้ประกอบการ