ปัตตานี – สมาคมประมงจังหวัดปัตตานีรวมตัวกว่า 200 คน หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานีถือป้ายประท้วงพร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ คัดค้านร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล ชูเหตุผล 5 ประเด็น ขอรัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบ
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นางอันน์เกตุ ลีลาไพบูลย์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี พร้อมผู้เข้าร่วมชุมชุมกว่า 200 คน ยื่นเข้าหนังสือร้องเรียนให้กับ นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล โดยมีผู้ประกอบการกิจการ ลูกจ้าง เข้าร่วมพร้อมถือป้าย มีข้อความชาวประมงอ่าวปัตตานีเป็นเอกฉันท์ คัดค้าน ร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล ไม่ชอบด้วยเหตุผลและไม่เหมาะไม่ควรกับกาลของแผ่นดินไทย คัดค้านประมงเข้าประกันสังคม จ่ายประกันสังคมไม่ไหวแล้ว ให้ต่างด้าวใช้ประกันสังคมเพื่ออะไร
ด้าน นางอันน์เกตุ ลีลาไพบูลย์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ประมงปัตตานียื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเลที่ผ่านร่างไป เนื้อหาใจความมีการพาดพิงประมงพาณิชย์ ซึ่งเห็นแล้วว่าถ้าผ่านร่างนี้เข้าไปอนาคตชาวประมงพาณิชย์จะได้รับความเดือดร้อน เกี่ยวกับเรื่องให้แรงงานต่างด้าวทุกคนทำประกันสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ขณะที่คนไทยเราทุกคนยังรับประกันสังคมที่ถูกต้องเลย ดูแลคนไทยให้ดี เราชาวประมงทุกคนทำงานเพื่อประเทศให้ทุกคนอยู่ดีมีรายได้ ขอให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อประโยชน์ของประเทศต่อไป
ปัจจุบันอาชีพประมงเราเหลือแค่ 1 ใน 3 โดย 1 ใน 4 ของชาวประมงที่มีอยู่ทั้งหมด เป็นฝางเส้นสุดท้าย ที่ต้องรักษาอาชีพนี้ เฉพาะจังหวัดปัตตานีมีเรือประมง จากเดิม 2,000 ลำ ตอนนี้ออกทำการประมงจริง ๆ เพียง 200-300 ลำ ส่งผลให้ชาวบ้านไม่มีงานทำ อาชีพที่มีอยู่ก็ทำไม่ได้ จะย้ายออกจาพื้นที่ไปที่ไหนก็ไม่ได้ ต้องดิ้นร้นให้ชีวิตอยู่ได้ เราต้องการอาชีพที่ถูกต้องที่เป็นไปตามเงื่อนไขรัฐบาลทุกอย่าง ขอรัฐบาลหันมามองเราด้วย
โดยหนังสือมีใความว่า ตามที่ ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล ตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอ ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล ฯ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558 เพื่อให้พระราชบัญญัติดังกล่าว มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันและเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2549 โดยกำหนดให้การจ้างงานระหว่างเจ้าของเรือกับคนประจำเรืออยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน เพื่อให้คนประจำเรือได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย
สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานีและสมาชิกชาวประมงจังหวัดปัตตานี “มีมติเป็นเอกฉันท์คัดค้านกับการนำอาชีพแรงงานประมงทะเลเข้าระบบประกันสังคม” ที่ไม่ควรแก่เหตุและกาล ดังนี้
1.แรงงานทำงานบนเรือประมงจะมีการหมุนเวียนเข้า-ออก การเคลื่อนย้ายแรงงานเกิดขึ้นเป็นปกติทั้งปี จึงไม่สอดคล้องในการนำแรงงานอาชีพประมงเข้าระบบประกันสังคม
2.แรงงานประมง เป็นลูกจ้างประเภทงานเกษตรกรรมที่จ้างตามฤดูกาล ไม่มีกำหนดวันและรูปแบบการจ้างที่คงที่ตายตัว ด้วยเรือประมงไม่ได้ออกทำการประมงสม่ำเสมอ เช่น ช่วงหน้ามรสุม ช่วงปิดอ่าวทั้ง 2 ฝั่งทะเล ไม่ได้ออกทำประมงตลอดทั้งปี ในบางลำออกทำการประมงเพียง 2-3 เดือนก็หยุดจอดเรือ หรืออาจ 7-9 เดือนต่อปีเท่านั้น จึงมิใช่เหตุที่จะใช้เงื่อนไขเดียวกันในการทำประกันสังคมแรงงานในภาคอุตสาหกรรมหรืองานบริการทั่วไป
3. ผู้ประกอบการเรือประมงทั้งพาณิชย์และพื้นบ้านส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 ประกอบอาชีพลักษณะบุคคลธรรมดา ไม่ใช่นิติบุคคล เป็นการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ส่งต่อและสืบทอดกันโดยธรรมชาติของครัวเรือน ไม่มีสำนักงาน ไม่มีรูปแบบการดำเนินกิจการทางธุรกิจการค้า การลงทุนที่ต้องมีสำนักงานตามการจดแจ้งเฉพาะ
4.กระทรวงแรงงาน ได้ออกประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การจัดสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและสวัสดิการแก่แรงงานประมง ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ให้แรงงานภาคประมง ได้รับการคุ้มครองสุขภาพและสวัสดิการ ซึ่งทำการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย มีค่าประกันสุขภาพอยู่แล้ว หากมีการเรียกเก็บเงินประกันสังคมอีกก็จะซ้ำซ้อน เป็นการสร้างภาระให้ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ เกินกว่าสถานะเศรษฐกิจของชาติ ณ ปัจจุบัน ที่เป็นอยู่อันเป็นการสร้างภาระให้กับเงินแผ่นดิน
5.กระทรวงแรงงานมีกฎหมายบังคับให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งชาวประมงและแรงงานในเรือทุกคน ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวอย่างเสมอภาค โดยมุ่งเน้นสวัสดิภาพและสวัสดิการ จึงมิใช่เหตุที่จะต้องจ่ายเงินซ้ำซ้อนให้เป็นภาระแก่ชาติ อีก
ในการนี้ สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานีและสมาชิกชาวประมงอ่าวปัตตานีทั้งหมด มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ ขอคัดค้านการผ่านร่างพระราชบัญญัติแรงงานทะเล และขอให้ ครม. โปรดทบทวนและขอให้ยุติที่จะนำแรงงานกลุ่มอาชีพเรือประมงทะเลเข้าสู่ระบบประกันสังคม ด้วยที่จะเป็นการเร่งภาวะล่มสลายของอาชีพประมงเรือพาณิชย์ไทย ทั้งที่เป็นการทำมาหากินที่สุจริตของคนไทย ที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งแผ่นดินที่มีทรัพย์ในดิน สินในน้ำไว้ให้ลูกหลานได้ทำกินสืบมา