เสียงคัดค้านดังกึกก้องจากเมืองตรังและภาคใต้ เมื่อผู้ประกอบการรถบัสสองชั้นและภาคบริการกว่าร้อยชีวิต รวมพลังแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งกรมการขนส่งทางบก ที่ห้ามรถโดยสารสองชั้นวิ่งผ่านเส้นทาง "เขาพับผ้า" โดยชี้ว่ามาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งต่อระบบขนส่ง การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจชุมชนอย่างหนักหน่วง
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย พร้อมด้วยผู้ประกอบการภาคบริการในพื้นที่ภาคใต้ ได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ นำรถบัสสองชั้นกว่า 100 คัน และรถตุ๊กตุ๊กหัวกบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตรัง เข้าร่วมชุมนุมบนเส้นทางเขาพับผ้า-อันดามันเกตเวย์ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเชื่อมต่อระหว่างอำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง กับอำเภอนาโยง จังหวัดตรัง เพื่อคัดค้านคำสั่งของกรมการขนส่งทางบก ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน
เส้นทางเขาพับผ้า ถือเป็นหนึ่งในเจ็ดเส้นทางทั่วประเทศที่กรมการขนส่งทางบกได้ประกาศห้ามรถโดยสารสองชั้นใช้งาน มาตรการนี้เกิดขึ้นจากความกังวลของภาครัฐเกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะในเส้นทางที่มีความลาดชันและคดเคี้ยว ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจากรถขนาดใหญ่ที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูงเช่นรถบัสสองชั้น
ในขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เส้นทางเขาพับผ้าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุจากรถบัสสองชั้นแม้แต่ครั้งเดียว พวกเขามองว่าปัจจัยสำคัญที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุคือ ความพร้อมและความชำนาญของผู้ขับขี่ ระบบเบรกของรถที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี การควบคุมความเร็วอย่างเคร่งครัด และอุปกรณ์ความปลอดภัยภายในรถที่ครบถ้วนตามมาตรฐาน
การสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระหนักขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเขาจำเป็นต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่อ้อมกว่าเดิมมาก การเดินทางระหว่างฝั่งอ่าวไทยกับอันดามันที่เคยใช้เส้นทางเขาพับผ้า อาจต้องอ้อมไปทางอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และผ่านแยกกะปาง เข้าสู่จังหวัดกระบี่ก่อนถึงจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเพิ่มระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร หรืออาจต้องอ้อมไปทางจังหวัดสตูล ส่งผลให้ต้นทุนค่าน้ำมันพุ่งสูงขึ้น และระยะเวลาในการเดินทางก็เพิ่มขึ้น
ผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผู้ประกอบการรถโดยสารเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปยังภาคธุรกิจอื่นๆ ในพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทั้งร้านอาหาร ร้านของฝาก พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ทั้งในจังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุง ที่เคยพึ่งพานักท่องเที่ยวและผู้สัญจรผ่านเส้นทางนี้
สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย ได้ชี้แจงว่า นโยบายของภาครัฐในครั้งนี้ออกมาโดยไม่ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเพียงพอ ทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ทั้งต่อภาคขนส่ง ภาคการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจชุมชน พวกเขาจึงเรียกร้องให้ภาครัฐทบทวนประกาศดังกล่าว และเสนอให้มีมาตรการเสริมอื่นๆ เช่น การเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสภาพรถและคุณภาพของผู้ขับขี่อย่างสม่ำเสมอ แทนการห้ามใช้เส้นทางโดยสิ้นเชิง
การรวมตัวแสดงพลังในครั้งนี้ ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ที่ต้องการสะท้อนเสียงของผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาครัฐจะเปิดใจรับฟังและร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน