ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจภาค 8 ท้าวัดใจ "ผบ.ตร." กล้าหรือไม่ คดีสส.กระทืบนักธุรกิจ แฉซ้ำนาทีเกิดเหตุตำรวจใหญ่อยู่ในงานแต่เงียบสนิท ถามกลัวอะไร ถามหามาตรฐานคดี สส.-สจ.ทำร้ายชาวบ้าน บารมีล้นคอนเนคชันปึ๊กเรียนมินิ วปอ.ร่วมนายกอิ๊งค์
จากกรณีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายนักธุรกิจอายุ 40 ปี โดยมีผู้ถูกกล่าวหาตามเอกสารรายงานคดีของ สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช คือนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ และนายพิชิตชัย เดชเดโช สจ.นครศรีธรรมราช เขตร่อนพิบูลย์ น้องชาย พร้อมพวกอีกราว 10 คน เหตุเกิดเมื่อ 23 พฤษภาคม 2568 จนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเย็บไปราว 5 เข็มจากการถูกตีด้วยของแข็ง ร่างกายบอบช้ำ เข้ารักษาตัวที่ ร.พ.นครินทร์นครศรีธรรมราช ต่อมาได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในวันรุ่งขึ้นคือ 24 พฤษภาคม 2568 และยังระบุในรายงานฉบับเดียวกันว่าผู้เสียหายได้เข้าถอนแจ้งความในค่ำวันเดียวกัน ต่อมากลายเป็นข่าวที่ถูกให้ความสนใจไม่น้อยกว่าเหตุการณ์กระทืบตำรวจในหน่วยเลือกตั้งใน จ.สงขลาของ สจ.กอล์ฟและพวกนั้น
วันนี้ (2 มิ.ย.) ความคืบหน้าในคดีนี้ล่าสุดนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ในทางคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 มีความชัดเจนคือเป็นความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหายเป็นอาญาแผ่นดิน เมื่อพนักงานสอบสวนทราบความแล้วต้องดำเนินการ และยิ่งผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัวเกินกว่า 20 วันถือว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถยอมความกันได้นี่คือประเด็น
“เป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของตำรวจที่ไม่สยบยอมอิทธิพลมืด แต่ก็ไปทำอะไรไม่ได้ เพราะระบบสีเทามันใหญ่กว่าที่ชาวบ้านคิดเหลือเกิน สื่อมวลชนควรไปถาม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ว่า มาตรฐานในคดีนี้อยู่ตรงไหน คดีที่ตำรวจถูก สจ.กอล์ฟและพวกรุมทำร้ายตำรวจในหน่วยเลือกตั้งมีการทำคดีอย่างรวดเร็วโอนคดีไปยังสอบสวนกลาง สอบเส้นทางการเงินธุรกิจสีเทาอีกสารพัด ถาม ผบ.ตร.ไปเลยว่าคดีนี้ผู้เสียหายไม่ใช่ตำรวจ คดีนี้จึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบใช่หรือไม่”
นายตำรวจรายเดิมยังระบุอีกว่า วันนี้ตำรวจร่อนพิบูลย์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถูกกดดันตั้งแต่หัวหน้าโรงพักลงไปจนถึงนายตำรวจเด็กๆ ไปจนถึงพนักงานสอบสวนเป็นตำรวจหญิงด้วย ไปถาม ผบ.ตร.เถอะจะเกรงใจอะไร หรือเกรงใจนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ผู้ต้องหาเป็นรองหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล หรือในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นมินิ วปอ.กับนายกแพทองธาร ไปตรวจดูรายชื่อได้เลยผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในรายชื่อลำดับที่ 93 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลำดับที่ 97 หรือเกรงใจนายพลอีกนับสิบๆ คน ทั้งทหารตำรวจครบครัน หรือที่สำคัญเกรงใจในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ นี่คือปัญหาใหญ่ของตำรวจเราถึงเวลายอมรับกันได้หรือยัง
“ในงานบวชคืนนั้นช่วงเวลาเกิดเหตุมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับพันตำรวจเอก ระดับรองผู้บังคับการ ผู้กำกับ ยังอยู่ร่วมในงานอย่างน้อย 2 คน ระดับรองผู้กำกับ สารวัตรอีกหลายคน และตำรวจเด็กๆ ที่ไปเดินตามหลังอีกกี่คนลองถามใจกันดู เหตุการณ์นี้ตำรวจพวกนี้เงียบหมด ชาวบ้านที่ถูกข่มขู่คุกคามใครถ่ายภาพไว้ถูกสั่งให้ลบให้หมด ห้ามไม่ให้ใครเผยแพร่ หรือให้สื่ออีกสารพัด หลังจากเกิดเหตุยังมีความพยายามช่วยเหลือให้เรื่องจบ ครอบครัวของผู้เสียหายถูกกดดันหนัก ผบ.ตร.นึกถึงผู้เสียหายกันบ้างหรือไม่ถูกดูแลปกป้องให้รอดพ้นจากการถูกคุกคามกันบ้างหรือไม่ เมื่อเทียบกับคดี สจ.กอล์ฟ หากมาคดีนี้ทำอะไรไม่ได้ ผู้เสียหายถูกทอดทิ้งจะเป็นการสะท้อนอีกครั้งถึงความล้มเหลวของระบบตำรวจไทย” นายตำรวจรายนี้เปิดใจ