ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจกองปราบคุมตัว สจ.กอล์ฟพร้อมพวกทั้ง 7 คนจากเรือนจำ จ.สงขลาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ด้าน ผอ.กกต.สงขลาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มกับ สจ.กอล์ฟกับพวกรวม 10 คน
ความคืบหน้าคดีนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่สั่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ตชด.ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้มีการโอนย้ายให้ตำรวจกองปราบดำเนินการโดยตำรวจกองปราบได้ยื่นคำร้องโอนย้ายการฝากขังมาคุมขังต่อยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการทางคดี
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) ได้มีการส่งตัว สจ.กอล์ฟพร้อมพวกทั้ง7รายจากเรือนจำ จ.สงขลาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว โดยภารกิจนี้ถูกปิดเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ต้องขังทั้ง7รายประกอบด้วย นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ นายพงษ์เทพ วาดวิไล หรือหนึ่งฟรีด้อม นายหนุ่มเสก ทองศรี นายรพีพงศ์ สวัสดิ์ชูแก้ว นายจักรพงษ์ เทพชุม นายศศรัณย์ สง่าบ้านโคก และนายสรายุทธ หนูชัยแก้ว
การส่งตัวผู้ต้องขังทั้ง 7 คนมีการใช้กำลังของหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ กำลังตำรวจกองปราบกองกำกับ 6 คุมเข้มตลอดการเดินทาง โดยใช้รถกระบะสำหรับควบคุมผู้ต้องขังของเรือนจำจ.สงขลา เพียงคันเดียวในการส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางและการคุ้มกันตลอดการเดินทาง
เริ่มออกจากเรือนจำ จ.สงขลาประมาณ 05.00 น. เมื่อวานนี้ และถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในเวลา 18.00 น. ของวันเดียวกัน เป็นการเดินทางแบบรวดเดียวจบไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาลงจากรถตลอดการเดินทาง โดยภารกิจส่งตัวผู้ต้องขังทั้ง 7 คนสำเร็จเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เป็นลูกสมุนของ สจ.กอล์ฟ ที่ถูกตำรวจกองปราบจับกุมเพิ่มเติมในภายหลังอีก2คน คือ นายอรรณพ ขาวมาก และนายไฟซอล สายสลำ ได้ถูกคุมตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปก่อนแล้วเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการจับกุมตามหมายจับของศาลอาญา
ส่วนทางด้านคดี เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) ร.ต.อ.สมนึก กุลมณี ผอ.กกต.สงขลา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงชลา ให้ดำเนินคดีอาญาผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมจำนวน 10 คน ในข้อหากระทำการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรืออนุกรรมการซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้ง โดยใช้กำลังประทุษร้ายอันเป็นความผิดมาตรา 66 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ป.กกต. และกระทำการฝ่าฝืนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 155 ประกอบมาตรา368 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
และเป็นการเข้าไปในสถานที่ราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยร่วมกันกระทำความผิดกันตั้งแต่สองคนขั้นไป อันเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 364 ประกอบมาตรา 365(2)