xs
xsm
sm
md
lg

กลับมาแล้ว! พะยูน 2 ตัวแม่ลูก พร้อมเต่าตนุอีก 9 ตัว อาศัยและหากินในพื้นที่อ่าวน้ำเมา ทะเลกระบี่ จากความสมบูรณ์ของหญ้าทะเล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระบี่ – อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ สำรวจพบพะยูนแม่ลูกกลับมาอาศัยหากินที่อ่าวน้ำเมาเพิ่มอีก 2 ตัว รวมเป็น 3 ตัว ร่างกายอ้วนสมบูรณ์ และพบเต่าตนุอีก 9 ตัว บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของหญ้าทะเลและทรัพยากรทางทะเล



นายแสงสุรีย์ ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผย ตามที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการวิชาการด้านอนุรักษ์คุ้มครองสัตว์ทะเล เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้านการวิจัยสัตว์ทะเลหายาก และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วใต้น้ำ ของสำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จำนวน 15 นาย ออกแผนปฏิบัติการสำรวจประชากรพะยูนและสัตว์ทะเลหายากและใกล้จะสูญพันธุ์ ทั้งสำรวจการความเคลื่อนไหวของสภาพร่างกายพะยูนในพื้นที่รับผิดชอบ ที่พะยูนได้อพยพเข้ามาอาศัยและหากินหญ้าทะเล หรือ หญ้าใบมะกูด ซึ่งเป็นอาหารหลัก ตามแนวชายฝั่งบริเวณฝั่งตะวันออกของเทือกเขาบ้านอ่าวน้ำเมา หมู่ที่ 5 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ โดยนั่งเรือตรวจการณ์เข้าสังเกตการณ์สภาพพื้นที่อาศัยของพะยูน และการใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนบินสำรวจประชากรพะยูนและสัตว์ทะเลหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์


จากการสำรวจตลอดทั้งวันของวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า พะยูนที่อาศัยบริเวณอ่าวน้ำเมา เดิมมีจำนวน 1 ตัว มีการอพยพเข้ามาเพิ่มอีก 2 ตัว คาดว่าน่าจะเป็นแม่และลูก รวมจำนวน 3 ตัว กำลังกำลังหากินและว่ายน้ำเล่นอย่างสนุกสนาน โดยตัวแรกระดับความความสมบูรณ์ของร่างกายถือว่าอ้วนมากๆ ตัวที่สอง ระดับความสมบูรณ์ของร่างกายสมบูรณ์มากเช่นกัน ซึ่งอยู่ในตัวเต็มวัย ขนาดลำตัวยาวประมาณ 2 – 2.5 เมตร คาดคาดว่าน่าจะเป็นตัวเมียและเป็นแม่ของลูกที่กำลังว่ายน้ำเล่นกันอยู่นอกแนวหญ้าทะเล และตัวที่สามระดับความสมบูรณ์ของร่างกายระดับสมบูรณ์มากๆ ขนาดลำตัวยาวประมาณ 1 เมตร รอบลำตัวกว้างประมาณ 1 – 1.5 เมตร


นายแสงสุรีย์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทีมสำรวจยังตรวจพบเต่าตนุอพยพเข้ามาอาศัยในบริเวณพื้นที่อ่าวน้ำเมา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี นับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว ซึ่งแต่ละตัวมีความแตกต่างกันไปตามสภาพความสมบูรณ์และอายุ รวมจำนวน 9 ตัว แต่ละตัวมีขนาดความกว้างของลำตัวสูงสุดประมาณ 50 – 60 เซนติเมตร ขนาดความยาวสูงสุดประมาณ 70 – 80 เซนติเมตร และขนาดความกว้างของลำตัวต่ำสุดประมาณ 30 – 40 เซนติเมตร ขนาดความยาวต่ำสุดประมาณ 50 - 60 เซนติเมตร ส่วนใหญ่เข้าสู่ตัวเต็มวัยและตัวเต็มวัย อายุประมาณ 10 ปีขึ้นไป


ส่วนสาเหตุที่พะยูนไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่และได้อพยพเข้ามาเพิ่ม รวมถึงเต่าตนุที่อพยพเข้ามาด้วย เกิดจากสภาพภูมิอากาศของท้องทะเลอันดามัน ในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งและนานน้ำของ จ.กระบี่ โดยเฉพาะบริเวณแนวชายฝั่งที่มีระดับน้ำลึก 5 – 10 เมตร ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและหากินของพะยูนและเต่าตนุโดยทั่วไป เพราะปีนี้สภาพอากาศโดยรวมดีมากไม่ร้อนจัด และมีฝนตกลงมามากทำให้ท้องทะเลและน้ำทะเลไม่ร้อนเหมือนปีที่ผ่านมา ระดับน้ำถือว่าอุ่นจึงทำให้หญ้าทะเลหรือหญ้าใบมะกูดซึ่งเป็นอาหารหลักของพะยูนและเต่าตนุ ตลอดจนสัตว์น้ำแถบชายฝั่งอื่นๆมีจำนวนประมาณประชากรเยอะตามไปด้วย

ทำให้การเจริญเติบโตของสัตว์น้ำและการขยายพันธุ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านพบเห็นพะยูนบ่อยขึ้น สร้างความดีอกดีใจสุดๆให้ชาวอุทยานแห่งชาติรวมไปถึงชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย ที่ได้พบเห็นพะยูนยังไม่สูญพันธุ์จากพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันของน่านน้ำจังหวัดกระบี่ และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม่ว่าการอพยพเข้ามาแต่ละครั้งมีจำนวนไม่มากหรือเป็นฝูงก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น