ตรัง - รถทัวร์ใต้ ร้านค้า โรงแรมเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า ตรัง -พัทลุง โอดผลกระทบหนัก หลังกรมขนส่งฯ สั่งห้ามรถทัวร์ 2 ชั้นเดินรถ 7 เส้นทางเสี่ยง ชี้ยอดขายวูบหนักกว่ายุคโควิด เตรียมนัดรวมตัว 4 มิ.ย.นี้ วอนกรมขนส่งฯ ศึกษาหลากหลายองค์ประกอบ สถิติอุบัติเหตุ-มูลค่าศก.-ต้นทุนเดินทาง ก่อนออกคำสั่ง
วันนี้ (28 พ.ค.) ตามที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ออกประกาศห้ามรถโดยสารสาธารณะ 2 ชั้น ทั้งรถโดยสารประจำทาง และไม่ประจำทาง เดินรถใน 7 เส้นทางเสี่ยงที่มีความลาดชันทั้วประเทศ รวมทั้งเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า ตรัง -พัทลุง ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนส่ง ดำเนินการจัดรถโดยสารประเภทรถโดยสารชั้นเดียวเข้าทำการเดินรถแทนในเส้นทางดังกล่าว กรณีที่ผู้ประกอบการไม่สามารถเปลี่ยนรถตามที่กำหนดได้ ให้กรมการขนส่งทางบก หารือกับผู้ประกอบการในการเปลี่ยนแปลงเส้นทางเดินรถเป็นเส้นทางอื่นที่มีความปลอดภัย และไม่ผ่านจุดเสี่ยงตามที่กำหนด ทั้งนี้ ในส่วนของรถโดยสารไม่ประจำทางเริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
ปรากฏว่าขณะนี้ทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ ทั้งผู้ประกอบ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ห้องพัก ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้มีการทบทวนคำสั่งในเส้นทางเขาพับผ้าดังกล่าว โดยระบุว่าที่ผ่านมาเส้นทางเขาพับผ้ารถบัส รวมทั้งรถบัสสองชั้นไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน
นายอุดมศักดิ์ รักราวี ผู้จัดการทั่วไปร้านเค้กสายใจ ตั้งอยู่ริมถนนตรัง-พัทลุุง กล่าวว่า จากกรณีประกาศห้ามดังกล่าว ทำให้ธุรกิจต่อเนื่องจากรถทัวร์ รถเช่าเหมาที่จะนำนักท่องเที่ยวผ่านเข้ามาจับจ่ายในพื้นที่จังหวัดตรัง ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งผู้ประกอบการรถ ร้านค้า ร้านอาหาร ขายของฝาก โรงแรม ห้องพัก ปั๊มน้ำมัน ทำรายได้หายไปมากกว่าร้อยละ 40 เพราะนักท่องเที่ยวที่มาจาก 3 จังหวัดภาคใต้จะไปจังหวัดภูเก็ต ไม่สามารถผ่านจังหวัดตรังในเส้นทางเดิมได้ เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจในพื้นที่ ทำให้ธุรกิจยิ่งฟุบหนัก
“ส่วนตัวเปิดร้านมากว่า 18 ปี ไม่เคยมีรถทัวร์ 2 ชั้นประสบอุบัติเหตุในเส้นทางนี้ มีบ้างเฉพาะรถขนาดเล็กเท่านั้น จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนเส้นทางดังกล่าว และเชื่อว่าถนนมีวิศวกรออกแบบมาอย่างดีแล้ว โดยขอให้ควบคุมโดยการบังคับใช้กฎหมายเรื่องคนขับ ความปลอดภัยของรถ และเรื่องความเร็วของรถแทน โดยในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ ผู้ประกอบการรถ รวมทั้งตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวเนื่องรถทัวร์ 2 ชั้น จากหลายจังหวัดภาคใต้ ได้นัดชุมนุมใหญ่บนเส้นทางเขาพับผ้า จังหวัดตรัง เพื่อเรียกร้องให้มีการทบทวนเรื่องนี้” นายอุดมศักดิ์ กล่าว
ด้านนางกนิษฐา ชัยคช เจ้าของร้านเค้กกนิษฐา อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง กล่าวว่า เศรษฐกิจในพื้นที่ก็ย่ำแย่อยู่แล้ว แต่พอมีคำสั่งห้ามรถทัวร์ 2 ชั้นวิ่งผ่าน เหมือนฟ้าผ่าซ้ำเติมปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการและลูกจ้างที่มีมากกว่า 50 ชีวิต เดิมรถทัวร์ 2 ชั้นเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 10 คัน และเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดยาว จะยิ่งมีจำนวนมาก แวะรับประทานอาหาร แวะละหมาด แวะซื้อของฝาก พนักงานเคยทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน แต่ตอนนี้เหลือเพียงวันละ 1 คัน เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว พนักงานต้องลดเวลาทำงานลงเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ กระทบรายได้ กระทบครอบครัวของพนักงาน ถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง สถานการณ์หนักกว่าช่วงโควิดอีก ขณะที่ทัวร์มาเลเซียจากหาดใหญ่จะไปภูเก็ตก็ยกเลิกหมด เพราะต้องจ่ายค่าเช่ารถแพงขึ้น ระยะเวลาเดินทางมากขึ้นและไม่สะดวก ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องละหมาด เส้นทางใหม่ไม่มีรองรับนักท่องเที่ยว ทำให้มีการยกเลิกการเดินทางแล้วจำนวนมาก
ด้านนายสมมาตร ดำหนก พนักงานขับรถทัวร์ 2 ชั้นบริการเช่า กล่าวว่า ปกติจะใช้เส้นทางเขาพับผ้า พัทลุง-ตรัง แต่นับตั้งแต่มีคำสั่งห้ามรถทัวร์ 2 ชั้นวิ่งผ่านเขาพับผ้ามาเดือนกว่า ถูกลูกค้ายกเลิกการเดินทางไปทั้งหมด กระทบอย่างมาก เพราะต้องวิ่งอ้อมเข้าทางจังหวัดสตูลมาจังหวัดตรัง อ้อมเป็นระยะทางไปกลับประมาณ 200 กิโลเมตร เช่นเดียวกันหากไปทางอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะทางก็อ้อมประมาณ 200 กิโลเมตรเช่นกัน และจะต้องใช้เวลาวิ่งเพิ่มมากขึ้นเกือบ 3 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 -4,000 บาทต่อเที่ยว ซึ่งความจริงผ่านมาเส้นทางเขาพับผ้าไม่มีอันตรายอะไรเลย สามารถเช็คข้อมูลประวัติย้อนหลังได้ รถบัส 2 ชั้นไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน
“อยากให้พิจารณาเป็นรายเส้นทางว่ามีอันตรายหรือไม่แล้ว ยึดสถิติอุบัติเหตุย้อนหลัง และให้ลงมาดูพื้นที่จริงๆ ผมขับมา 9 ปีแล้วไม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนเส้นทางเขาพับผ้า ตอนนี้ผู้ประกอบการรถทัวร์ 2 ชั้น เดือดร้อนอย่างมาก พอขอเพิ่มค่าเช่าเหมารถ ลูกค้าก็ยอมยกเลิกการจอง เที่ยวนี้มายอมแบกรับต้นทุนเอง ไม่เช่นนั้นไม่มีงาน” นายสมมาตร กล่าว
ขณะที่ นายศิริชัย ตังเซ่งกี้ พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ 2 ชั้น สายเบตง-ภูเก็ต กล่าวว่า นอกจากผู้ประกอบการเดือดร้อนแล้ว พวกตนก็เสี่ยงตกงาน ผู้โดยสารก็เดือดร้อน ถ้าต้องวิ่งอ้อมไปผ่านทางจังหวัดสตูล หรือผ่านอำเภอทุ่งสง ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตรหรือไปกลับประมาณ 200 กิโลเมตร ค่าน้ำมันกม.ละ 10 บาท ทำค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น 2,000-3,000 บาท และยิ่งเสี่ยงอุบัติเหตุ ปกติรถโดยสารประจำทางเบตง-ภูเก็ต มีวันละ 2 เที่ยว ผู้โดยสารรวม 80 คน ขากลับก็ 80 คน ต่อวันผู้โดยสารเดือดร้อนเกือบ 200 คน หากใช้เส้นทางอื่นก็ต้องมีการปรับค่าโดยสาร อยากให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณารายเส้นทาง เพราะข้อมูลสถิติย้อนหลังรถทัวร์ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุบนเขาพับผ้า หากจะแก้ให้บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งในที่นี้มีบางเส้นทางที่อันตรายมากกว่านี้ก็มี
ทั้งนี้ สำหรับเส้นทางที่มีความลาดชัน 7 เส้นทาง ซึ่งกรมการขนส่งทางบกออกประกาศห้ามรถทัวร์ 2 ชั้นเดินรถ ประกอบด้วย 1.ทางหลวงหมายเลข118 ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว 2.ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ฮ่องสอน-แม่ตีบ 3.ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงป้ว-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา 4.ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม 5.ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติกูหินร่องกล้า, 6.ทางหลวงหมายเลข 304 ช่วงสี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว และ 7.ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า ตรัง –พัทลุง