นครศรีธรรมราช - ตร.ตามรวบหนุ่มใหญ่เมืองคอนคาโรงพยาบาล หลังทะเลาะวิวาทคู่อริทั้งทุบและแทงจนเสียชีวิตคาสวนปาล์ม อ้างถูกดักทำร้ายก่อนจึงต้องลงมือป้องกันตัวเอง เหตุถูกเข้าใจว่าไปจีบเมียของผู้ตายจนต้องเลิกกัน
วันนี้ (27 พ.ค.) พ.ต.ท.สุวิทย์ นวลสง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.นรากรเอียดช่วย รอง ผกก.ป.สภ.เมือง นำชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนครจุดบางจาก เข้าทำการตรวจสอบเหตุคนถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 11 ต.บางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ. นครศรีธรรมราช
เมื่อไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุอยู่ในสวนปาล์มกับถนนมีลำคลองคั่นกลาง พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายพันธ์ศักดิ์ พูนหนู อายุ 42 ปี สภาพถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าชายโครงด้านขวา 1 แผล และถูกทุบตีด้วยเหล็กเข้าศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ และที่ริมถนนอีกฝั่งคลองพบรถจักรยานยนต์สภาพเก่าล้มอยู่ นอกจากนั้นยังพบท่อนเหล็ก หมวกและรองเท้ากองอยู่บนถนน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นน้องสาวของผู้ตายได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายพันธ์ศักดิ์ ทำงานก่อสร้างอยู่ที่ชลประทานที่กำลังก่อสร้างคลองเลี่ยงเมือง ก่อนเกิดเหตุได้พักเที่ยงที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่เกิดเหตุมากนัก หลังจากนั้นก็ได้ขับรถ จยย.ออกจากบ้านเวลาประมาณเกือบบ่ายโมง กระทั่งมีคนที่ขับรถผ่านมาได้บอกว่าเห็นรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ จึงวิ่งไปดูและได้พบร่างของ นายพันธ์ศักดิ์ เสียชีวิตอยู่ในสวนปาล์มซึ่งอยู่คนละฝั่งคลอง
ส่วนสาเหตุทางเจ้าหน้าทนยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิฐานว่าขณะที่ นายพันธ์ศักดิ์ ขับรถ จยย.ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานก็ได้เจอกับคู่อริคนหนึ่งที่มีการอาฆาตมาตร้ายกันก่อนหน้านั้น ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขึ้นใช้อาวุธมาห่ำหั่นกัน โดย นายพันธ์ศักดิ์ ถูกทำร้ายทั้งถูกทุบตีและถูกแทง จึงวิ่งหนีตายลงคลองว่ายน้ำไปอีกฝั่งก่อนจะสิ้นใจตาย ส่วนคนร้ายซึ่งน่าจะเป็นคนรู้จักได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ
ต่อมา ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศูนย์ส่งเสริมสุขภาพว่ามีผู้บาดเจ็บถูกทำร้ายร่างกายเข้ารักษาตัว จึงเข้าตรวจสอบพบ นายอานนท์ สุจิวัฒน์ อายุ 32 ปี เมื่อเห็นตำรวจอยู่ในอาการตระหนก จึงได้เข้าสอบถามข้อมูลจนยอมรับว่าเป็นคู่กรณีกับ นายพันธศักดิ์ และอ้างว่าก่อนเกิดเหตุนั้นได้ถูก นายพันธศักดิ์ ยิงก่อนกระสุนเข้าศีรษะ และถูก นายพันธศักดิ์ ใช้ท่อนเหล็กทุบซ้ำก่อนฮึดสู้แย่งท่อนเหล็ก แต่ยังถูก นายพันธศักดิ์ ใช้อาวุธมีดแทงเป็นแผลฉกรรจ์ ก่อนที่จะแย่งมีดได้แล้วแทงกลับไป 2 ครั้ง จากนั้น นายพันธศักดิ์ได้กระโดดน้ำหนีไป ส่วนตัวเองได้ขับจักรยานยนต์มารักษาตัว และถูกเจ้าหน้าที่เข้าคุมตัวดังกล่าว
เมื่อสอบถามสาเหตุ นายอานนท์ ระบุว่าเป็นความเข้าใจผิดที่ นายพันธศักดิ์ เข้าใจว่าตนไปยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของเขาจนต้องทำให้แยกทางกัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับ นายอานนท์ เนื่องจากแพทย์ได้ส่งตัวไปยัง รพ.มหาราช ซึ่งจะได้ตามไปอายัดและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปแล้ว