xs
xsm
sm
md
lg

“ขยะภูเก็ต” วิกฤต กลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้าน ถ้าไม่ลดขยะจากต้นทางให้ได้ 30 %ล้นเกาะแน่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ขยะภูเก็ต” วิกฤต กลิ่นเหม็น รบกวนชาวบ้าน นทท. ยอดกว่า 1,100 ตันต่อวัน เกินขีดความสามารถเตาเผา - บ่อฝังกลบ รับได้ ถ้า อปท.แต่ละแห่งไม่การส่งขยะ ให้ได้ 30 % ไม่เกิน 2 -3 เดือน “ภูเก็ตขยะล้นเกาะ” แน่


วิกฤติ “ขยะภูเก็ต” กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญของเกาะ ที่นับวันปัญหาจะขยายใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน รวมทั้งกลิ่นจากภูเขาขยะสูงกว่า 10 เมตร ที่ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณพื้นที่ ที่อยู่รอบๆกองภูเขาขยะ และ กลิ่นมักจะรุนแรงขึ้นในช่วงที่มีฝนตก มีการรื้อร่อนขยะที่เก็บสะสมมานานกว่า 10 ปี จนทำให้ชาวบ้านไม่สามารถอยู่ในที่โล่งได้ นอกจากนั้นปัญหาขยะยังเป็นอีกปัญหาหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวเรียกร้องให้ทางจังหวัดภูเก็ตเร่งแก้ไข

ปัจจุบันมีขยะจากทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ต ที่หลั่งไหลเข้ามายังศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมจังหวัดภูเก็ต มากถึง 1,100 -1,200 ตัน ต่อวัน ในขณะที่เตาเผาขยะสามารถกำจัดได้เพียงวันละ 700 ตัน ทำให้ขยะต้องไหลไปอยู่ที่บ่อฝังกลบ อีกวันละ 400 - 500 ตัน ในขณะที่ขยะในบ่อฝังไม่สามารถที่จะรองรับจำนวนขยะที่เพิ่มมากขึ้นได้แล้ว เพราะขยะในบ่อฝังกลบที่ตกค้างอยู่ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีมากกว่า 800,000 ตัน ทำให้ปัจจุบันขยะที่นำไปยังบ่อฝังกลบถูกเทกองจนล้นบ่อ กลายเป็นภูเขากองขยะที่สูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 10 เมตร


ที่ผ่านมาการบริหารจัดการขยะจากทั้งเกาะภูเก็ต ตกมาเป็นหน้าที่ของ เทศบาลนครภูเก็ต ในการบริการจัดการและกำจัดขยะ ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัดภูเก็ต จัดส่งเข้ามาที่ศูนย์บริหารจัดการขยะมูลฝอยที่มีเพียงแห่งเดียว และ อยู่กลางเมืองภูเก็ต เมื่อปริมาณขยะมีมากเกินกำลังความสามารถของเตาเผาและบ่อฝังกลบ

ปัญหาจากขยะ ย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ คือ ปริมาณขยะเกินกำลังระบบการกำจัดโดยวิธีการเผา มีผลทำให้เกิด ปัญหาผลกระทบ กลิ่นขยะ และปัญหานี้เป็นปัญหาจัดการได้ยากที่สุดเนื่องจากพื้นที่ฝังกลบปัจจุบัน มีการดำเนินโครงการ และ ใช้งานฝังกลบขยะตลอดเวลา และมีความสูงกว่า 10 เมตรจากพื้นเดิม หากมีลมพัดจากทะเลเข้าฝั่งจะเกิดกลิ่นลอยไปตามทิศทางลม ที่ผ่านมา เทศบาลนครภูเก็ต พยายามดำเนินการให้เกิดกลิ่นน้อยที่สุด ทั้งฉีดสารชีวภาพ ปิดคลุมกองขยะบางส่วน แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้ จนเป็นที่มาของเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง


ส่วนการแก้ปัญหาโดยการเพิ่มศักภาพการจัดการขยะนั้น ได้มีการดำเนินการในหลายส่วน แต่อาจจะไม่ทันต่อปัญหาขยะที่นับวันเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โครงการให้เอกชนลงทุน สร้างเตาเผาขนาด 500 ตัน เพิ่มอีก 1 เตาซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2570 รวมทั้งโครงการรื้อร่อนขยะที่ตกค้างอยู่ในบ่อฝังกลบ ที่ 4 จำนวน 100,000 ตัน ออกจากพื้นที่ไปกำจัดเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับขยะ ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการกว่า 40 ล้านบาท ภายใน 8เดือน โดยบริษัท ไทยไพบูลย์ อีควิปเม้นท์ จำกัด และ โครงการความร่วมมือ กับ บ. Jwdscg รื้อร่อนขยะนำไปเป็นเชื้อเพลิง(RDF) อีก 2 แสนตัน ภายใน 3 ปี โดยทางเทศบาลไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการของบประมาณเพื่อรื้อขยะออกเพิ่มเติม เฟส2 และ เฟส 3 ทั้งนี้ต้องรอผลการพิจารณางบประมาณจากส่วนกลาง

ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาเหล่าเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ยังต้องรอเวลา แต่ปัญหาขยะภูเก็ต ไม่สามารถรอได้แล้ว เชื่อว่าอีก 2 - 3 เดือนนี้ หากปริมาณขยะยังหลั่งไหลเข้าสู่เตาเผาวันละ 11,00 -1,200 ตัน ในช่วงโลว์ซีซั่น และช่วงไฮซ์ซีซั่นปริมาณขยะก็อาจจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,400 ตันต่อวัน วิกฤตขยะของภูเก็ตเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แล้วเมื่อถึงวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับจังหวัดภูเก็ตเมืองท่องเที่ยวระดับโลก


อย่างไรก็ตามเพื่อแก้ปัญหาหาวิกฤตขยะภูเก็ต โดยเฉพาะเรื่องของการบริหารจัดการขยะ ทางเทศบาลนครภูเก็ต ได้ประชุมด่วน ร่วมกับองค์กรปกทุกแห่งในภูเก็ต เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยการลดปริมาณขยะจากต้นทางให้ได้ร้อยละ 30 ภายใน 3 เดือน อาจจะก่อให้เกิดวิกฤตขยะล้นเกาะ กระทบภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว ได้
หากปริมาณขยะในภาพรวมที่ส่งเข้ามายังศูนย์กำจัดมูลฝอยรวมจังหวัดภูเก็ต ยังอยู่ที่ 1,100 – 1,200 ตัน / วัน ทางศูนย์ฯ จะกำหนดการรับปริมาณขยะเข้ากำจัดเพียง 700 ตัน / วัน ตามประสิทธิภาพของเตาเผา ส่วนขยะที่เหลือให้แต่ละ อปท.บริหารจัดการตนเอง

นอกจากนั้นยังได้มีการทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร มติที่ประชุมร่วมกันของทุก อปท. ผ่านทางสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคประชาสังคม ภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคการท่องเที่ยว เพื่อสะท้อนปัญหาวิกฤตขยะของจังหวัดภูเก็ตให้รัฐบาลได้รับทราบ และหามาตรการแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน ป้องกันปัญหาวิกฤตขยะ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในสายตานานาชาติทั่วโลก

หลังจากนี้คงจะต้องมารอดูกันว่า จังหวัดภูเก็ต และรัฐบาลจะให้ความสำคัญ ในการแก้ปัญหาขยะของภูเก็ตมากน้อยแค่ใหน เพราะทุกวันนี้ปัญหาขยะกำลังกลายเป็นระเบิดเวลา ที่พร้อมจะระเบิดตลอดเวลา ถ้ายังไม่สามารถลดปริมาณขยะได้


กำลังโหลดความคิดเห็น