ตรัง - “ไอซ์ รักชนก” ลั่นฝ่ายค้านพร้อมลุยตรวจสอบงบปี 2569 เปิดไส้ในใช้งบไม่ตรงเป้าแก้วิกฤต ศก.ปัจจุบัน ชี้เสถียรภาพรบ.สั่นคลอนแล้ว ร่อแร่ยุบสภาฯ โอดฝ่ายค้านไร้เก้าอี้รองปธ.สภาฯ งบปรับปรุงรัฐสภาอู้ฟู่เลยโผล่ ชวนคนใต้เลือก ปชน. ล้างบางระบบคอร์รัปชั่นให้หมดไป
วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตตรัง อ.เมือง จ.ตรัง นางสาวรักชนก ศรีนอก ส.ส.พรรคประชาชน และคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวในเวทีรับฟังการสะท้อนปัญหาและรับฟังความคิดเห็น “งบประมาณจังหวัดตรังกับการมีส่วนร่วมของประชาชน” โดยมีเครือข่ายภาคประชาชนเข้าร่วมกว่า 100 คน ถึงแนวทางของฝ่ายค้านในการติดตามตรวจสอบอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท
โดยมีใจความว่า ตอนนี้ประชาชนในประเทศได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมาก ผลกระทบสำคัญคือการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราได้รับผลกระทบจาก 2 ด้านใหญ่ๆ คือผลกระทบจากสหรัฐฯโดยตรง และผลกระทบจากจีน ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งดำเนินการคือการออกมาตรการและกำหนดงบประมาณเพื่อเยียวยาประชาชน โดยเฉพาะบรรดาผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามภาษีที่เกิดขึ้นนี้ แต่ถามว่ารัฐบาลจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เพื่อรองรับปัญหานี้หรือไม่ คำตอบคือไม่แน่นอน เพราะหลายโครงการที่ใช้งบโดยไม่จำเป็นก็ยังคงอยู่
อย่างเช่นงบปรับปรุงรัฐสภาที่เป็นกระแสอยู่ในปัจจุบัน ตนศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ที่ผ่านมา พบว่าทุกปี เช่น ในส่วนของกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ เกี่ยวกับแหล่งน้ำวงเงินประมาณแสนบล้านบาท ขอกันทุกปี เมื่อผ่านงบดำเนินการแล้วก็ละลายหายไป ปีงบประมาณใหม่ก็มาขอกันอีก อย่างถนนหนทางต่าง ๆ ก็ขอซ้ำเส้นเดิม ทั้งที่ถนนยังไม่ได้พังแต่ก็ตัดซ้ำตัดทับใหม่ในเส้นเดิมทุกๆปี
“แล้วพรรคร่วมรัฐบาลเองอย่างที่เห็นแล้ว ในเรื่องเสถียรภาพแม้จะเหมือนยังจะจับมือกันอยู่ แต่มีดปักหลังกันเต็มไปหมด ไม่รู้จะยุบสภาวันไหน แล้วถ้ายุบสภา ในการเลือกตั้งพรรคการเมืองต้องใช้ปัจจัยอะไร แล้วคิดหรือว่าเขาจะยอมแก้ไข พ.ร.บ.งบฯ ที่วงเงินสูงถึง 3.7 ล้านล้านบาทที่ตกลงกันไว้แล้วหรือ จึงคิดว่ารัฐบาลคงไม่เปลี่ยนแปลงรายละเอียดใน พ.ร.บ.งบฯ ให้สอดคล้องกับปัญหาปัจจุบัน ดังนั้นฝ่ายค้านทำได้คือหากพบเรื่องไม่ถูกต้องก็ต้องเอามาประจานให้ประชาชนรู้ถึงความผิดปกติต่าง ๆ” นางสาวรักชนก กล่าว
นางสาวรักชนก กล่าวอีกว่า ตอนนี้ในการติดตามตรวจสอบงบปี 69 พรรคประชาชนได้ดำเนินการใหม่คือ ติดตามตรวจสอบไปก่อนนั้น คือ ติดตามตรวจสอบไปตั้งแต่กระบวนเริ่มต้นในการยื่นคำขอจัดสรรงบประมาณโครงการก่อนที่จะเสนอต่อสำนักงบประมาณ เพื่อให้เห็นปัญหาก่อนที่จะได้รับอนุมัติโครงการ อย่างเช่นงบปรับปรุงรัฐสภาที่เสนอมาในขณะนี้ ดีกว่าปล่อยให้โครงการต่าง ๆ ทำไปแล้วมีการทุจริตแล้วมาตรวจสอบกันเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว
และในอดีตเอกสาร พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี มีแต่แบบกระดาษรูปเล่มที่เอามากองแล้วสูงเท่าเอว แต่ในยุคนี้ที่ฝ่ายค้านทำหน้าที่และได้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนมีไฟล์ Excel ที่ประชาชนเข้าถึงและร่วมตรวจสอบได้ นี่คือความเปลี่ยนแปลงของระบบตรวจสอบโดยฝ่ายค้านที่เกิดขึ้นในยุคนี้ แม้การเป็นพรรคฝ่ายค้านไม่ได้ถือเสียงข้างมากในสภา และไม่มีอำนาจในการควบคุมสั่งการข้าราชการ แต่เราทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น
นางสาวรักชนก กล่าวต่อว่า ในงบปี 2569 รัฐสภามีโครงการก่อสร้างเพิ่มเติม เฉพาะที่จอดรถใช้งบถึง 4.5 พันล้านบาท คิดดูว่าขนาดตึก สตง.ที่ถล่ม มีการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างในรายละเอียด พบว่าบางรายการมีราคาสูงเกินจริง แต่งบประมาณรวมยังแค่ 2.3 พันล้านบาท เดิมเราเคยมีตำแหน่งรองประธานสภาฯ ในยุคนั้นจะไม่เห็นการตั้งงบประมาณในเรื่องแบบนี้ เพราะเรามีคนไปคุมไปเฝ้าดูแลการใช้งบประมาณอยู่ แต่เมื่อฝ่ายค้านไม่ได้รับผิดชอบในตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่สอดส่องดูแล เราก็ทำได้ในเรื่องของการนำมาตีแผ่เปิดเผยให้สังคมรับรู้ ยืนยันว่าเราสู้เสมอ การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาเราก็ชกเต็มหมัดตลอด เพราะเราก็อยากเห็นคนทำผิดทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ติดคุก หากเมื่อใดที่ได้เป็นรัฐบาลเราจะต้องล้างบางในสิ่งเหล่านี้
“และบอกตรงนี้ว่าถ้าเมื่อใดที่พรรคประชาชนได้เป็นรัฐบาลแล้วไม่ทำ ให้ประชาชนเอารองเท้ามาเขวี้ยงเราได้เลย ทุกวันนี้ตนเปิดเรื่องปัญหาของประกันสังคมมาก็อยากให้ชัดถึงคนผิด แต่ที่ทำได้คือการเอามาเปิดโปงให้ประชาชนรับรู้ เฉพาะส่วนตัวคนเดียววันนี้คดีก็เต็มตัวไปหมด เหลือแต่จะโดนจ้างมือปืนมายิงแล้ว ลำพังเรื่องประกันสังคมกับ กสทช. รวมกันก็โดนไปร้อยล้านบาทแล้ว ดังนั้นหากทุกคนไม่อยากเห็นระบบการคอร์รัปชั่นอีกต่อไป โดยเฉพาะภาคใต้ รอบหน้าก็เลือกพรรคประชาชน” นางสาวรักชนก กล่าว