xs
xsm
sm
md
lg

“ทวี สอดส่อง” ถกนักธุรกิจมาเลย์เตรียมทุ่ม 50 ล้านเปิดตลาดอาเซียนที่นราธิวาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นราธิวาส - “ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรมร่วมถกนักธุรกิจมาเลย์ เผยเตรียมร่วมทุน 30-50 ล้านบาท เปิดตลาดอาเซียนแห่งแรกที่นราธิวาส เล็ง 2 พื้นที่ “สุไหงโก-ลก”-“แว้ง”

วันนี้ (24 พ.ค.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส, นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ จังหวัดนราธิวาส, พลตำรวจโทพัฒนวุธ อังคะนาวิน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ร่วมคอยให้การต้อนรับ จำนวนกว่า 2,500 คน พร้อมทั้งได้ถือโอกาสแจกรางวัลการประกวดซุ่มประตูมัสยิด

รมว.ยุติธรรม ได้ถือโอกาสพูดคุยพบปะกับประชาชนที่เดินทางมาร่วมงาน โดยกล่าวถึงโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ว่าเป็นการสืบสานองค์ความรู้ท้องถิ่น อัตลักษณ์วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่ทรงคุณค่าของประชาชนในพื้นที่ การพัฒนาคนคือหัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ต้องทำให้เยาวชนมีพื้นที่ปลอดภัย มีทักษะชีวิต มีเวทีสร้างสรรค์และได้รับการยอมรับในฐานะ เจ้าของอนาคตของชุมชน

อย่างไรก็ตามขณะที่เราร่วมกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เราก็ไม่อาจละเลยภัยคุกคามจากยาเสพติด ที่กำลังรุกคืบเข้าสู่ชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและชายแดน ปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น ความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และครอบครัวที่เปราะบาง ล้วนทำให้เยาวชนตกเป็นเหยื่อของเครือข่ายค้ายาเสพติดได้ง่ายขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางของการพัฒนาที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

ต่อมา รมว.ยุติธรรม ได้เดินชมบูธอาหาร จำนวนกว่า 20 แห่ง พร้อมทั้งได้ชิมรสชาติอาหารคาวหวาน ซึ่งล้วนแล้วเป็นอาหารประจำถิ่น หรือ อาหารโบราณ ที่สามารถหากินได้ในเฉพาะพื้นที่ เช่น แกงกะทิปลาซ่อน ขนมต้ม ขนมไข่ เป็นต้น

ก่อนดินทางกลับ รมว.ยุติธรรม ได้ร่วมพูดคุยนอกรอบเป็นการส่วนตัวกับคณะนักธุรกิจประเทศมาเลเซีย ที่มีโอกาสได้เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ คือ นายซุลฟีกา ซูไฮมี Mr.Zulfika Suhaimi และนายนิอาซิม นิมูฮัมหมัด Mr.Niazim Nimuhammad ที่ห้องประชุม อบต.ดุซงญอ ซึ่งนักธุรกิจมาเลเซียมีความสนใจที่จะเดินทางมาทำการค้าร่วมกับคนไทย โดยหากมีการพูดคุยสำเร็จจะถือเป็นการลงทุนเปิดตลาดอาเซียนแห่งแรกในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องใช้เงินร่วมลงทุนประมาณ 30 ถึง 50 ล้านบาท ในการพูดคุยใช้เวลาร่วมชั่วโมง โดยหลังจากนี้จะมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า วันนี้ทางนักธุรกิจของประเทศมาเลเซีย นายก อบต.ดุซงญอ และคณะ นายกอบจ.จ.นราธิวาส ร่วมหารือกับนักธุรกิจมาเลเซีย ซึ่งนักธุรกิจมาเลเซียพบว่าอยากมีตลาดอาเซียนหรือตลาดสินค้าอาเซียน เพราะเราอยู่ในประชาคมอาเซียน ซึ่งคล้ายๆประเทศไทยไม่มี แต่จะมีที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีสินค้าของอาเซียนมาวางเป็นสินค้าคล้ายๆสินค้าพื้นเมือง โดยทางนักธุรกิจมาเลเซียก็อยากจะร่วมทุนกับทางประเทศไทย โดยมองไปที่พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก หรือ อ.แว้ง ที่ใดที่หนึ่งที่เป็นแนวชายแดน ซึ่งปัจจุบันนี้เรามีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยได้ใช้เงินเต็มความสามารถ เราก็ยังไปมองนักท่องเที่ยวเข้ามาอีกก็ไม่มีประโยชน์ แต่จะทำอย่างไรที่จะทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วได้ใช้เงินเยอะขึ้น ซึ่งในขณะนี้ จ.นราธิวาสอย่างเดียวนักท่องเที่ยวก็ล้านคนแล้วต่อปี ทั้งนักท่องเที่ยวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวต่างๆเข้ามาก็ควรที่จะต้องมีตลาดด้วย ซึ่งเป็นแนวความคิดหนึ่งที่มานำเสนอ โดยทางรัฐบาลเองก็เห็นด้วย

“วันนี้เรื่องใหญ่ของเราจะต้องสร้างเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ แล้วต้นทุนของจังหวัดชายแดนหรือแนวชายแดนเราต้องมีการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งในเร็วๆนี้สะพานก็จะเกิดขึ้น ถ้านักธุรกิจเริ่มต้นด้วยความคิดของนักธุรกิจ แล้วก็คนในพื้นที่ร่วมด้วย รัฐบาลได้หนุน ส่วนสถานที่นั้นก็มีบ้านเอื้ออาทรที่ค่อนข้างร้าง ซึ่งทางเราได้มีการพูดคุยกับพ.ม.แล้ว ก็มีแนวความคิดว่ามันต้องมีการรื้อ เพราะสภาพมันใช้ไม่ได้แล้ว ทั้งโครงสร้างตึก ซึ่งถ้าจะมีการแบ่งบางส่วน อันนั้นก็เป็นสถานที่ ที่ทางเราจะต้องเลือกว่าระหว่าง อ.แว้ง กับอ.สุไหงโก-ลกว่าอำเภอไหนจะดีกว่ากัน”


กำลังโหลดความคิดเห็น