ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หยุดปัญหากัดเซาะ “ชายหาดทรายแก้ว” ด้วยรั้วดักทราย เฟสแรกทำแล้ว 500 เมตร เปิดภาพเปรียบเทียบก่อนทำหลังทำ ล่าสุดมีทรายติดแนวรั้วเพิ่มขึ้น หยุดปัญหาพังทลายของแนวชายหาด ซึ่งเคยถูกคลื่นกัดเซาะเกือบถึงถนน เตรียมทำเฟส 2
หลายคนที่ขับรถผ่านหาดทรายแก้ว ต.ไม้ขาว จ.ภูเก็ต อาจจะสงสัย ว่า ทำไมมีไม้ไปปักเป็นแนวรั้วอยู่บนชายหาด ความยาวประมาณ 500 เมตร วันนี้เรามีคำตอบ ซึ่ง หาดทรายแก้ว เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียของจังหวัดภูเก็ต อีกแห่งหนึ่ง แต่ที่ผ่านมาหาดทรายแก้ว เป็นชายหาดที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายหาดในช่วงฤดูมรสุม
ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่า น้ำทะเลได้กัดเชาะชายหาดเข้ามาจนถึงถนนเส้นหลักที่ไช้เดินทางออกนอกเกาะภูเก็ต ถ้าปล่อยไว้เชื่อว่าถนนเส้นดังกล่าวจะถูกน้ำกัดเซาะหายไปอย่างแน่นอน รวมถึง ต้นสนขนาดใหญ่หลายต้นที่หักโค่นลงมาและมีแนวโน้มว่าจะหมดไปเรื่อยๆ
จนเป็นที่มาของการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โครงการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง บริเวณพื้นที่วิกฤติในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยใช้งบประมาณ จำนวน 4.789 ล้านบาท ซึ่งอุทยานฯ ขอใช้งบประมาณจากเงินอุทยานแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อจัดทำรั้วไม้ดักทรายคู่ขนานแบบซิกแซก ความยาว 500 เมตร ซึ่งขณะนี้การดำเนินการคืบหน้าไปแล้วกว่า 80 %
นายศิริวัฒน์ สืบสาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง บริเวณพื้นที่วิกฤติในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ว่า การจัดทำรั้วไม้ดักทรายคู่ขนานแบบซิกแซก ความยาว 500 เมตร บริเวณหาดทรายแก้ว ให้เป็นกับดักกรองตะกอนทราย เพื่อสร้างเนินทราย และป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ร่วมกับการปลูกพันธุ์ไม้ชายหาดหลังแนวรั้ว เพื่อเป็นกำแพงสีเขียว ที่มีระบบรากช่วยยึดสันทรายไว้ เช่น ผักบุ้งทะเล จิกทะเล เตยทะเล รักทะเล และหูกวาง เป็นต้น โดยกำหนดแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2568 ขณะนี้มีการดำเนินการไปแล้วร้อยละ 80
อย่างไรก็ตาม นอกจากยังมีแผนดำเนินการต่อระยะที่ 2 ด้วยการจัดทำรั้วไม้ดักทรายคู่ขนานแบบซิกแซก เพิ่มเติมจากระยะที่ 1 เป็นแนวที่ 2 และจัดทำรั้วไม้ดักทรายเพิ่มเติมในแนวชายฝั่งที่ยังไม่ได้ดำเนินการ จำนวน 2 แนว เป็นระยะทาง 1,150 เมตรต่อแนว ขณะนี้ อุทยานฯ ได้เสนอโครงการไปแล้ว โดยจะขอใช้เงินอุทยานแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2568 เป็นเงิน 5.85 ล้านบาท
นายศิริวัฒน์ กล่าวถึงการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพชายหาด ว่า ถือเป็นงานที่สำคัญในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ จากการศึกษา พบว่า บริเวณหาดทรายแก้ว เป็นพื้นที่ที่มีการกัดเซาะชายฝั่งมากที่สุด เป็นระยะทางแนวราบ 7.35 เมตร และเป็นพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงแนวดิ่งมากที่สุด มีความสูง 2.42 เมตร
สำหรับการกัดเซาะ เกิดขึ้นเนื่องจากอิทธิพลของกระแสน้ำที่ไหลเข้า-ออกและพัดพาเอาตะกอนทรายออกจากชายฝั่ง ทำให้เกิดการกัดเซาะชายหาดจนเป็นแนวดิ่ง และกัดเซาะเข้าไปจนถึงแนวต้นสน ทำให้ต้นสนล้มลงหน้าหาดเป็นจำนวนมาก ในบางปีอาจเกิดคลื่นหนุนสูงจาก ภาวะคลื่นลมแรงได้พัดพาน้ำทะเลข้ามถนน สร้างปัญหาต่อการจราจรของรถที่ผ่านเส้นทางสัญจรขาออกของจังหวัดภูเก็ต จากเดิมแนวชายหาดห่างจากถนนประมาณ 300-400 เมตร ปัจจุบันคงเหลือประมาณ 50 เมตร หากไม่มีการดำเนินแก้ปัญหาการกัดเซาะ คาดว่าอีก 3-4 ปีข้างหน้า ถนนทางออกจากจังหวัดภูเก็ต อาจจะโดนตัดขาด ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อจังหวัดภูเก็ตอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่สำรวจสภาพของพื้นที่ ที่มีการดำเนินโครงการพบว่า ขณะนี้ มีคลื่นได้ซัดทรายขึ้นมาอยู่หลังแนวรั้วแล้วจำนวนมาก บางจุดพบว่ามีเนินทรายสูงเกือบเท่าความสูงของรั้วไม้ดักทรายแล้ว และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือบริเวณที่เคยมีปัญหาเรื่องของคลื่นซัดเข้ามาบริเวณแนวชายหาดจนทำให้ดินทรายถูกกัดเซาะมาเกือบถึงถนน พบว่าบริเวณที่ทำแนวรั้ว ไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่คลื่นสูงขนาดใหนก็ตาม ส่วนต้นไม้ก็เช่นกันพบว่าต้นไม้ที่หลงเหลืออยู่ทุกต้นยังอยู่ปลอดภัยไม่ถูกคลื่นซัดโค่นล้มแต่อย่างใด เชื่อว่าน่าจะเป็นมาจากการทำแนวรั้วดักทราย
สำหรับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลเพียงแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อําเภอถลาง รวม 56,250 ไร่ หรือ 90 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย ป่าสนทะเลธรรมชาติ หาดทรายขาวสะอาด แนวปะการังที่สวยงาม และที่วางไข่ของเต่าทะเล กับจักจั่นทะเลจำนานมาก ตลอดจนหอยทะเลที่หายากหลายชนิด ซึ่งในส่วนของหาดทราย มีความยาวต่อเนื่องถึง 13 กิโลเมตร เช่น หาดท่าฉัตรไชย หาดทรายแก้ว และหาดไม้ขาว เป็นต้น และขณะนี้ทางอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กำลังติดตามการเกิดลักษณะของสันดอนทรายงอกเชื่อมจากแผ่นดินไปยังเกาะทะอีกด้วย