สุราษฎร์ธานี - ยังไร้วี่แวว “เจ้แก้ว” แม่ค้าทุเรียน หายตัวปริศนา พร้อมทองคำ 20 บาท เงินสด 1 แสนบาท ตร.ไล่กล้องวงจรปิด พบ ขับ จยย.ไปคนเดียว และ เชื่อยังมีชีวิต เหตุที่หายตัวไปคาดน้อยใจสามี เชื่อไม่ใช่การชิงทรัพย์
จากกรณีเมื่อเวลา 17.00 น.(18 พ.ค.68) เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งจากนายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น อายุ 44 สามี นางสุจิตรา (เจ้แก้ว) กุลจันทร์ อายุ 43 ปี ว่า เจ้แก้ว แม่ค้าขายส่งทุเรียนรายใหญ่ในตลาดโพธิ์หวาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หายตัวไป ขณะขับรถจักรยานยนต์ออกจากแผงในตลาดโพธิ์หวาย เพื่อกลับบ้านพักที่อยู่แถวตลาดล่าง โดยทางครอบครัวพยายามติดต่อ แต่ยังไร้วี่แวว
ล่าสุดบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.) พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า เจ้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางต่างต่าง พบว่า ในคืนเกิดเหตุ เจ้แก้ว ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากตลาด แล้วเลี้ยวขวาไปเส้นทางถนนตลาดล่าง แล้วเลี้ยวขึ้นสู่ถนนอำเภอ โดยขับรถไปคนเดียวไม่มีผู้ช้อนท้าย หรือมีใครประกบ
ประกอบกับสอบปากคำลูกสาวในเบื้องต้น สาเหตุที่หายไปน่าจะเป็นการน้อยใจสามี ที่ทำงานไม่มีวันหยุด แถมสามี ยังไม่ไว้ใจ ติดกล้องวงจรปิดที่ร้านเหมือนคอยจ้องจับผิด แต่ไม่มีเหตุทะเลาะกันรุนแรง
ด้าน นางสาวเกท น้องสาว ก็บอกว่าพี่เขยต้องเดินทางไปซื้อทุเรียนอยู่ต่างจังหวัด 2-3 อาทิตย์ จึงจะกลับมาที พี่เขยเป็นคนค่อนข้างขี้หึงและหวาดระแวง จึงติดกล้องวงจรปิดที่บ้านและที่แผง ซึ่งพี่สาวบ่นให้ฟังว่าไม่สะบายใจ เหมือนกับถูกจับตาหรือติดคุก พร้อมย้ำว่ากรณีเรื่องชู้สาวนั้นไม่มีแน่ แต่อาจจะเป็นการน้อยใจสะสมที่หมักหมมมานาน จึงหนีไปแบบไม่ติดต่อมาจึงทำให้ทุกคนเป็นห่วง
ตนอยาก ขอให้พี่สาวติดต่อกับมามีอะไรให้กลับมาพูดคุยกันอย่าหายแบบไร้ร่องรอยเพราะทุกคนเป็นห่วงและไม่สบายใจกลัวจะเกิดเหตุร้าย
ในขณะที่น้องอ้อม ลูกสาวบอกว่า แม่กลับบ้านได้แล้วทุกคนรออยู่ พร้อมตัดพ้อว่าหนูคิดถึงแม่มากๆ รีบส่งข่าวมาให้ทุกคนรู้ว่าแม่ปลอดภัยไม่เกิดเหตุร้าย พร้อมระบุว่า กรณีมีข่าวออกไปโจมตีพ่อว่าเป็นการทะเลาะกันทำให้แม่หลบหนีออกจากบ้านนั้นไม่เป็นความจริง พ่อไปซื้อทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรี ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดในร้าน แม่โทรไปถามพ่อ พ่อก็บอกว่าหากแม่ไม่สบายใจก็ถอดออก ไม่มีการทะเลาะกันแต่อย่างใด
