ศูนย์ข่าวภูเก็ต -สืบภาค 8 รวบเพิ่มอีก 1 ราย "อาจารย์ยอด" เน็ตไอดอล คนดังของเมืองพัทยา สมาชิกแก๊งต่างชาติ ร่วมปล้นคริปโต มูลค่า 10 ล้านเพิ่ม หลังก่อเหตุที่เกาะสมุยหนีกบดานพัทยา สารภาพได้ค่าทวงหนี้ 9 แสนบาท
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ ( 16 พ.ค.68) พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้รับรายงานการขยายผลจับกุมสมาชิกแก๊งร่วมกันปล้นเหรียญคริปโตของชาวต่างชาติมูลค่า 10 ล้านบาทเพิ่มอีก 1 คน หลังจาก พล.ต.ต.เลิศชาย จำปาทอง ผบก.สส.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.เทพนม สุวรรณรัตน์ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.8 นำกำลังชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.จว.ชลบุรีและตำรวจ ตม.จว.สุราษฎร์ธานีร่วมกันจับกุมนายมงคล โสระฎา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194/3 หมู่ 15 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุย โดยกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณ สภ.เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรีนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สมุยดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบประวัติ นายมงคล เป็นเน็ตไอดอล คนดังของเมืองพัทยา ใช้ชื่อว่า"อาจารย์ยอด" โดยให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ ว่า ฝรั่งที่ชื่อ นายบิลลี่ ชาวออสเตรเลีย ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ให้ไปทวงหนี้ จึงพาพวกไป 4 คน เมื่อพบตัวผู้เสียหายชาวออสเตรเลีย จึงตามไปคุย จนผู้เสียหายยอมโอนเหรียญคริปโตไปให้นายบิลลี่ และ นายบิลลี่ได้แบ่งเงินให้ประมาณ 9 แสนบาทเป็นค่าทำงาน
ทั้งนี้ก่อนมีการจับกุมแก๊งปล้นเหรียญคริปโตดังกล่าว ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายสัญชาติออสเตรเลียถูกเพื่อนร่วมชาติ ร่วมกันปล้นทรัพย์เงินสด และ เงินคริปโตถึง 2 ครั้งเป็นเงินร่วมกว่า 21 ล้านบาท และ ยังถูกติดตามข่มขู่ โดยหัวหน้าแก๊งมีประวัติเป็นกลุ่มมาเฟียในประเทศออสเตรเลีย อีกทั้งสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวพันกับยาเสพติด เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือจาก ผบก.บก.สส.ภ.8 จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วน่าเชื่อได้ว่าผู้เสียหายถูกแก๊งค์คนร้ายปล้นทรัพย์จริง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคนร้าย 4 คนนำโดยนายบิลลี่กับพวกร่วมกันบุกไปที่บ้านพักวิลล่าหรูในพื้นที่ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต บังคับข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีนายบิลลี่ 2 ล้านบาท และเอาเงินสดไปเพิ่มเติมอีกภายหลังเป็นเงินร่วม 10.5 ล้านบาทและข่มขู่ไม่ให้แจ้งความ
จากนั้นผู้เสียหายหลบหนีอยู่ที่อื่นก็ถูกติดตาม จนเมื่อปลายเดือน ม.ค.68 นายบิลลี่ส่งคนไทยกลุ่มหนึ่งไปติดตามผู้เสียหายขณะไปพักอยู่ที่เกาะสมุย และบังคับให้โอนเหรียญบิตคอยจำนวน 2.8 เหรียญไปให้นายบิลลี่อีกรวม 2 ครั้ง คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 21 ล้านบาท หลังทราบข้อเท็จจริง พล.ต.ต.เลิศชาย จำปาทอง ผบก.บก.สส.ภ.8 สั่งการให้ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 เข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และให้พาผู้เสียหายแจ้งความที่ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต และ สภ.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนทั้ง 2 สภ.ได้เร่งรัดเสนอต่อศาลออกหมายจับอย่างรวดเร็ว จึงได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้นายบิลลี่และนายมงคลถูกจับกุมตัวแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจะได้สืบสวนติดตามต่อ