ตรัง - จนท.สนธิกำลังปิดเขาบรรทัดล่า 4 มือสังหารฆ่าเผานั่งยางคนงานสวนปาล์มตรัง 4 ศพ พบสัญญาณ GPS รถคนตายโผล่ริมคลองผันน้ำ คาดพาทำลายหลักฐานก่อนเผ่นหนี เผยมีกองหนุนส่งเสบียงพร้อมพกอาวุธครบมือ
วันนี้ (15 พ.ค.) ความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนหลายขนาดยิงและนำศพเผาด้วยยางล้อรถยนต์เพื่ออำพรางคดีผู้จัดการสวนปาล์มพร้อมลูกน้องรวม 3 ศพ คนงานบริษัท ปิยะกลการ 199 จำกัด รวมทั้งศพนิรนามห่างกันไม่ไกลอีก 1 ศพ รวมเป็น 4 ศพ เหตุเกิดในสวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ พื้นที่หมู่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับ ประกอบด้วย 1.นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือบิน อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊ง มีประวัติเป็นมือปืนรับจ้างและก่อคดีมาแล้วโชกโชน 6 คดี โดยเฉพาะคดีฆ่าผู้อื่น 5 คดีและยาเสพติด 1 คดี, 2.นายจรณชัย สมาธิ หรือแต้ม อายุ 32 ปี, 3.นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และ 4.นายรพีพันธ์ บุญเกื้อ หรือเถือก อายุ 36 ปี
โดยตำรวจแกะรอยไล่ล่าขยายผลจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี จนสามารถเข้ายึดรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งเป็นของนายแต้ม หนึ่งในผู้ต้องหา นำมาจอดไว้ที่บ้านบิดาในพื้นที่บ้านเขาหลัก ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ก่อนคนร้ายทั้ง 4 จะหลบหนีขึ้นเขาหลัก-เขาโหรง แนวเทือกเขาบรรทัดซึ่งกินพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ สามารถเดินเชื่อมต่อ ตรัง-พัทลุง-นครศรีธรรมราชได้
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรังร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 นับร้อยนาย พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ ยังคงระดมกำลังขึ้นรถกระบะหลายคัน เพื่อเดินทางไปยังบ้านเขาหลัก หมู่ที่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ต้องนำรถไปจอดไว้บริเวณเชิงเขา เนื่องจากเส้นทางขึ้นภูเขามีสภาพสูงชันและทุรกันดาร ก่อนจะเดินเท้าต่อไปยังขนำของชาวบ้านภายในสวนยางพาราบนภูเขา
โดยเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เพื่อกระจายกำลังตรวจสอบและติดตามตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายจำนวน 4 ราย ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีรายงานข่าวจากในพื้นที่แจ้งว่า คนร้ายทั้ง 4 ได้หลบหนีขึ้นไปบนเขา ในช่วงวันที่ 11 พ.ค.โดยมีเครือข่ายด้านล่างช่วยเหลือเตรียมการในเรื่องเสบียง โดยทั้ง 4 มีพกพาอาวุธครบมือติดตัวไปด้วย ทั้งปืนสั้นและปืนยาว โดยกลุ่มคนร้ายได้เปรยกับผู้ใกล้ชิดว่า ไปยิงคนมา แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดกองบังคับการปราบปราม ได้ตรวจพบสัญญาณ GPS ของ “โกเชษฐ์” หัวหน้าคนงานผู้แลสวนปาล์มผู้เสียชีวิต ปรากฏอยู่บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.หนองตรุด จึงได้จัดชุดลงพื้นที่ตรวจสอบและไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พบหลักฐานสำคัญจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ 01.15 น.วันที่ 11 พ.ค.ผ่านมา โดยบันทึกภาพรถกระบะของ “แต้ม” ขับเข้ามาจากประตูน้ำหนองตรุด ขับผ่านไปในสายคลองหนองตรุด อ.เมืองตรัง ตามหลังมาด้วยรถกระบะมิตซูบิชิสีบรอนซ์เงินของผู้เสียชีวิต ก่อนที่ในช่วงขากลับจะมีเพียงรถของ “ไอ้แต้ม” ขับออกมาเพียงคันเดียวเลี้ยวไปทางเข้าเมืองตรัง โดยมีบุคคลอยู่หลังกระบะมาด้วย 2 คน คาดว่ากลุ่มคนร้ายได้นำรถของผู้ตายไปซุกซ่อนอำพรางหรือทำลายทิ้ง ก่อนหลบหนีต่อมายังพื้นที่บ้านเขาหลักเพื่อหนีขึ้นเขา
ขณะที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ ซึ่งเป็นถนนเลียบคลองลัด ความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร และใช้รถยนต์ลาดตระเวนตลอดเส้นทาง เพื่อตรวจหาจุดผิดปกติ หรือร่องรอยที่อาจพบรถยนต์ของผู้เสียชีวิต ซึ่งอาจถูกนำมาทิ้งไว้ในบริเวณดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัย เพื่อคลี่คลายคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญนี้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนอย่างมาก
