สุราษฎร์ธานี - รวบแล้ว “ไอ้เตี้ย” คนขับรถจักรยนต์รับจ้าง ที่ก่อคดีฆฆ่าอำพรางยายหนูนิล อายุ 89 ปี พร้อมชิงทอง มูลค่า 2.5 แสนบาท หลังก่อเหตุหนีมากบดานบนเกาะสมุย รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ตำรวจคุมตัวไปทำแผนยังร้านที่นำทองไปขาย ก่อนส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่นครศรีธรรมราช
วันนี้ ( 13 พ.ค.68) พ.ต.อ.ปัญญา นิรัตติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะสมุย ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.สวัสดิ์ ทัลวัลลิ์ สว.สส สภ.เกาะสมุย พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ แดงไชย สว.กก.สส.2 ปรก.กก.สส.1 บก.สส.ภ.8 นำกำลังตำรวจสืบสวนได้นำกำลังไปจับกุมตัวนายเจริญ ศรีจำรัส หรือ “ไอ้เตี้ย” อายุ 55 ปี ผู้ต้องหา ก่อเหตุลวงนางหนูนิล หรือ ยายนิล นิจภาพ อายุ 89 ปี ไปฆ่ารัดคอจนตาย แล้วจับศพยัดใส่กระสอบปุ๋ย ก่อนนำศพไปโยนทิ้งป่าละเมาะริมถนนสายเทิดพระเกียรติ หมู่ 5 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดย ไอ้เตี้ย วินมอเตอร์ไซด์ได้ชิงทรัพย์สร้อยทองหนัก 5 บาท แหวนทองคำ และเงินสด 1 หมื่นบาท รวม 2.5 แสนบาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุได้หลบหนีมากบดานในบ้านพื้นที่ หมู่ 1 ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ทันที ที่นายเจริญ หรือเตี้ย เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แสดงพิรุธ พร้อมวิ่งหนีไปบริเวณพรุหน้าเมือง เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากนั้นตำรวจสืบสวนได้อ่านหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ผู้ต้องหาฟัง ซึ่งนายเจริญ หรือเตี้ย ผู้ต้องหา รับว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลวงคุณยายไปสังหารแล้วชิงทองจริง ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไป ยัง สภ.เกาะสมุย พร้อมสอบปากคำอย่างละเอียด
ซึ่งผู้ต้องหาให้การอีกว่า หลังก่อเหตุได้เดินทางมากบดานที่เกาะสมุย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มาทำงานที่เกาะสมุย ส่วนทองคำ และ ทรัพย์สินของคุณยาย ได้ใช้จ่ายไปแล้ว ทองคำได้นำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตำบลมะเร็ต เกาะสมุย หลังได้เงินมาก็ได้ใช้จ่าย และซื้อทองคำ เส้นละ 1 สลึง จำนวน 2 เส้น
นายเจริญ ผู้ต้องหา ยังให้การรับสารภาพอีกว่า สำหรับคุณยายหนูนิล ผู้ตาย เป็นลูกค้าที่ใช้บริการรถจักรยานยนต์ ก่อนเกิดเหตุขณะขับรถจักรยานยนต์ รับคุณยายไปทำธุระ เห็นคุณยายมีทรัพย์สิน ทั้งเงินและทองจำนวนมาก จึงเกิดความโลภ เนื่องจากตนไม่ค่อยมีเงิน จึงก่อเหตุดังกล่าว หลังก่อเหตุได้นำทรัพย์ทั้งหมดหลบหนีมายังเกาะสมุย
ด้าน พ.ต.อ.ปัญญา นิรัตติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะสมุย เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานที่เกาะสมุย ซึ่งหลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับ และทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาที่เกาะสมุย ตำรวจสืบสวน สภ.เกาะสมุย และ ตำรวจสืบสวนภาค 8 จึงได้สืบสืบสวนติดตามจนทราบว่าไปหลบซ่อนอยู่ใน ตำบลหน้าเมือง จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม ในช่วงสายๆของวันนี้
เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง ซึ่งเสื้อผ้าที่สวมใส่วันที่เกิดเหตุก็ยังอยู่ที่ผู้ต้องหาเช่นกัน ทั้งนี้ ทางตำรวจได้ยึดเงินสดที่ผู้ต้องหาพกติดตัวไว้จำนวน 110,000 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ภายหลังหลังจากที่นำทองไปจำหน่ายแล้ว ผู้ต้องหายังได้ซื้อสร้อยคอทองคำ 2 เส้นๆละหนึ่งสลึง ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจสืบสวนเกาะสมุย พร้อมตำรวสืบสวนภาค 8 ยังได้เดินทางไปติดตามหาทองที่เหลืออยู่ ส่วนผู้ต้องหาและจะนำตัวส่งไปยังสภ. เมืองนครศรีธรรมราชต่อไป
พ.ต.อ.ปัญญา ผกก.สภ.เกาะสมุย ยังกล่าวอีกว่า เคสนี้ก็เป็นเคสอุทาหรณ์ อยากฝากพ่อแม่พี่น้องประชาชนเมื่อสวมใส่เครื่องประดับและทรัพย์สินจำนวนมากออกไปนอกบ้าน ควรระมัดระวัง เพื่อไม่เปิดโอกาสให้คนร้าย เพราะฉะนั้นการสวมใส่ทรัพย์สินเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ควรใส่ไว้อย่างมิดชิด
