xs
xsm
sm
md
lg

ไล่สกัดจับสองผัวเมียต่างด้าวขนเพื่อนร่วมชาติ 13 คน ส่งแคมป์คนงานที่สงขลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตม.สงขลาไล่สกัดจับสองผัวเมียต่างด้าวขนเพื่อนร่วมชาติ 13 คน ส่งแคมป์คนงานในเมืองสงขลา เช็กประวัติพบอยู่เกินกำหนดแถมยังออกนอกพื้นที่ขออนุญาต

วันนี้ (7 พ.ค.) พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ โรจนวานิชกิจ และ พ.ต.ท.พงษ์ศิริ พิทักษ์ สว.ตม.จว.สงขลา นำกำลัง ตม.จ.สงขลา ไปจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานหลบหนีเข้าเมืองปิดกฎหมาย หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีรถยนต์ 2 คัน กำลังลักลอบแรงงานเข้าในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยใช้ถนนสาย 408 เดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราชมายังจังหวัดสงขลา จึงประสาน สภ.ชุมพล ร่วมจับกุมโดยวางแผนสกัดจับรถทั้ง 2 คัน

กระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีเทา หมวดทะเบียนสุราษฎร์ธานี กำลังขับผ่านหน้าวัดเจดีย์งาม ชุดจับกุมจึงไล่ติดตามจนถึงหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สนามชัย อ.สทิงพระ จ.สงขลา จึงเรียกให้หยุดรถและแสดงตัวเป็นตำรวจขอตรวจเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตขับขี่ ปรากฏว่าพบ นางปาน อายุ 43 ปี บุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และในรถมีชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย 7 คน นั่งแออัดอยู่


ซึ่ง นางปาน ยอมรับว่า มีรถนําพาแรงงานชาวเมียนมา มาด้วยกัน 2 คัน โดยอีกคันเป็นรถกระบะสีขาว หมวดทะเบียนสระบุรี เจ้าหน้าที่จึงกระจายกําลังไล่ติดตามรถอีกคัน ก่อนพบว่าขับตามหลังห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น พบ นายวิน อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นผู้ขับขี่ ซึ่ง นายวิน เป็นสามีของนางปาน และในรถยังพบแรงงานชาวเมียนมา หนีเข้าเมือง 6 คน

จากการสอบสวน นางปาน และ นายวิน รับสารภาพว่า ไปรับแรงงานหลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมาทั้งหมดจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อไปส่งที่บริเวณแคมป์ก่อสร้างในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งจะได้ค่าจ้าง 1,500 บาทต่อคน และจะรับเป็นเงินสดจากคนต่างด้าวเมื่อส่งถึงปลายทาง

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสถานะของทั้ง 2 คน พบว่า นางปาน เป็นคนไม่มีสถานะทางทะเบียน มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี สามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2559 เรื่อง การกําหนดเขตพื้นที่ควบคุมและการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจําพวกที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม ฉะนั้นการเดินทางออกนอกเขตต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ นางปาน รับสารภาพว่า เดินทางออกมาจากจังหวัดกาญจนบุรีโดยไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าพนักงาน ฝ่ายปกครอง


ส่วนนายวิน มีหนังสือเดินทาง ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย ได้ถึงวันที่ 13 ก.พ.2568 แต่ยังไม่ได้ต่ออนุญาต จึงอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาทั้ง 2 คน ข้อหา ร่วมกันให้การช่วยเหลือ ให้ที่พักพิงซ่อนเร้นหรือ ช่วยเหลือด้วยประการใดๆให้คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงาน เจ้าหน้าที่

และแจ้งข้อหา นางปาน เพิ่มเติมข้อหา เป็นคนต่างด้าวหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตาม ขัดขืน หรือไม่ ยอมรับทราบคำสั่งของรัฐมนตรี คณะกรรมการ อธิบดี หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายซึ่งสั่ง การแก่คนต่างด้าวผู้นั้นตามพระราชบัญญัตินี้ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนายวิน ข้อหา เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด

ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวน แรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง ให้การผ่านล่ามรับว่า ต้องการมาลักลอบทำงานที่ประเทศไทย โดยเดินทางเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 พ.ค. จากนั้นก็มีรถมารับไปส่งตามจุดนัดหมายต่างๆ หลายจุด และยังเปลี่ยนรถอีกหลายคัน จนเดินทางด้วยรถทัวร์ถึงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสุราษฎร์ธานี และมี นางปาน กับ นายวิน มารับ ก่อนจะถูกจับกุมได้

ทั้งนี้พวกตนตกลงค่าเดินทาง 15,000 บาทต่อคน โดยจะจ่ายเมื่อถึงปลายทางแล้วเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชุมพล ดำเนินคดี






กำลังโหลดความคิดเห็น