ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบแผ่นป้ายประท้วง ผอ. ติดหน้าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา คาดมาจากการบริหารจัดการที่ทำตามอำเภอใจ และไม่เป็นธรรม พบครูล่าลายเซ็นยื่น ผอ.เขต มาแล้ว แต่เรื่องยังเงียบ
วันนี้ (5 พ.ค.) ที่ จ.สงขลา พบมีภาพการแขวนป้ายประท้วง 3 แผ่นที่กำแพงด้านหน้าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา ริมถนนสายเอเชีย ขาล่องจังหวัดชายแดนใต้ โดยข้อความบนแผ่นป้ายดังกล่าวทั้ง 3 แผ่น ระบุว่าข้อความประท้วง ผอ.โรงเรียนและต้องการให้มีการย้าย ผอ. ออกไป โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนมัธยมขนาดเล็ก ก่อตั้งมาได้ราว 30 ปี เพื่อรองรับนักเรียนตามหมู่บ้าน ชุมชน ที่ห่างไกลตัวเมือง และมี ผอ.คนล่าสุดมาดำรงตำแหน่งได้ราว 2-3 ปี โดยมีการอ้างว่า มีปัญหาสะสมเกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน ปฏิบัติหน้าที่ และกิจกรรมการมีส่วนร่วมกับชุมชน มาโดยตลอด
กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา คณะครูในโรงเรียนได้รวมตัวกันลงชื่อ 14 จากทั้งหมด 16 คน และทำบันทึกข้อความ พร้อมกับส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือแก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา-สตูล เพื่อขอความอนุเคราะห์ย้าย ผอ.คนนี้ ออกจากโรงเรียน
ในบันทึกข้อความตอนหนึ่งระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบันการบริหารงานของผู้อำนวยการโรงเรียน ไม่สามารถบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนได้ ตลอดจนไม่รับฟังปัญหาและความคิดเห็นของครูผู้สอน ไม่ยึดมติที่ประชุม ใช้อำนาจในการตัดสินใจโดยมิชอบ อีกทั้งคณะครูทุกท่านได้ขอคำปรึกษา เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกัน บ่อยครั้งกลับถูกปฏิเสธ และเมินเฉย ส่งผลต่อความรู้สึกในการทำงานของคณะครู
และสำนึกที่ผู้บังคับบัญชาควรมีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนไม่มีการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะครูอย่างจริงใจ ตลอดจนขาดความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ซึ่งโรงเรียนเคยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จนทำให้ผู้ปกครองและนักเรียนขาดความเชื่อมั่นในสถานศึกษา
จากปัญหาดังกล่าวที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน คณะครูจึงลงความเห็นมีมติเป็นเอกฉันท์ขอความอนุเคราะห์ท่านผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา-สตูล ได้โปรดพิจารณาในการย้าย ผู้อำนวยการออกจากโรงเรียนไปดำรงตำแหน่ง ณ สถานศึกษาอื่นที่เหมาะสม เพื่อให้โอกาสคณะครูได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพ และส่งเสริมผู้เรียนด้วยความผาสุก อันจะเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนและประเทศชาติสืบไป
หลังจากการการยื่นหนังสือได้มีการรับเรื่อง และบอกว่า จะมีการเรียก ผอ. มาชี้แจง และจะตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย แต่จนถึงปัจจุบันผ่านมาราว 5-6 เดือน ก็ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ หรือดำเนินการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทุกอย่างก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ครูจำนวนมากในโรงเรียนเกิดความตึงเครียดทั้งในการจัดการเรียนการสอน และการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้รับมอบหมาย รวมทั้งสูญเสียกำลังใจ และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหารโรงเรียน
และยังพบว่า มีครูที่อยู่กับโรงเรียนมานานตั้งแต่ยุคแรกเริ่มนานกว่า 20 ปี ก็ได้ตัดสินใจลาออกก่อนเกษียณอายุราชการไปแล้ว 2 ราย เพราะทนไม่ไหวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนครูคนอื่นๆ ก็มีความเครียด และท้อแท้ไปตามๆ กัน
อีกทั้งยังพบว่า การประเมินครู ซึ่งส่งผลต่อขวัญกำลังใจ และความก้าวหน้าในอาชีพ ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นเดียวกัน โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกประเมินให้คะแนนครู 90 กว่าคะแนน แต่ ผอ.กลับประเมินให้แค่ 70 คะแนนต้นๆ เท่านั้น
ทั้งนี้คาดว่า ต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งเข้าตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ก่อนที่จะเกิดความขัดแย้งไปมากกว่านี้