ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรมยันช่วยเหยื่อที่ถูก อส.ยิงกลางร้านข้าวต้มหาดใหญ่

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรมยืนยันพร้อมช่วยเหยื่อที่ถูก อส.ยิงกลางร้านข้าวต้มหาดใหญ่ เมื่อปลายปี 67 อย่างเต็มที่ ไม่ปล่อยให้สู้อยู่คนเดียว

วันนี้ (1 พ.ค.) จากเหตุการณ์ อส.กราดยิงร้านข้าวต้มเมื่อปลายปี ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เจ็บ 3 ราย ล่าสุดผู้บาดเจ็บเจ้าของร้านครัวภาวนา หลังจากที่ลูกชายน้องฟอสได้ออกมาโพสต์ว่า ใช่ครับ ณ.วันนี้ แม่ของผมได้เป็นคนพิการทางสายตาอย่างถาวรแล้ว ผมทำเต็มที่รักษาแม่ของผมทุกทางแล้วครับ พยายามอยู่ทุกวันหาเงินเปิดร้านเพื่อดูแลแม่น้องครอบครัว มันเหนื่อยมาก ผมจะสู้ครับ

ล่าสุด ทาง พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงการเยียวยาในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากวันที่ 28 เม.ย.68 ที่ผ่านมานั้น หลังจากที่ข่าวมีการนำเสนอออกไป หากฟังจากข่าวอาจจะยังไม่ชัดเจน ซึ่งผมก็ได้ประสานไปยังผู้กำกับหาดใหญ่และพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบก็ได้ความว่า มีการสอบรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมตั้งแต่วันเกิดเหตุและจับกุมผู้ต้องหาได้ทันที และทำการฝากขังถึง 6 ฝาก และมีการสั่งฟ้องก่อนจะครบฝากที่ 6 และแจ้งข้อหาคดีอาญา ไตร่ตรองฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา รวมถึงข้อหาฆ่าพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยเช่นกัน

ผลจากการรวบรวมหลักฐานพนักงานสอบสวนมีการสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการก็ได้สั่งฟ้องไป ปรากฎว่าในวันที่ 28 เมษายน 2568 ศาลได้นัดพิจารณาคดีนี้อีกรอบ เรียกได้ว่าเป็นการนัดพร้อมให้คู่กรณีทั้งผู้เสียหาย ผู้ต้องหา ผู้บาดเจ็บ ว่าจำเลยจะให้การรับสารภาพหรือปฎิเสธ จำเลยจะต้องชดใช้ค่าเสียหายในคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องทางแพ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าเสียหายตาม พรบ.เยียวยา แต่จะเป็นในส่วนของค่าเสียหายของตัวจำเลย มีโทษทั้งทางอาญาและทางแพ่ง

ในส่วนคดีอาญาได้มีการนัดพิจารณาทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย ในวันที่ 2-4 ก.ค. 68 ที่จะถึงนี้ ในวันดังกล่าวถ้าตัวจำเลยให้การปฎิเสธว่าเขาไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน เขาจะขอต่อสู้ในประเด็นนี้ นี่คือคดีทางอาญาที่เราอยากจะนำเรียนให้กับสื่อมวลชน ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งก็อยู่ในส่วนนี้ศาลก็จะพิจารณาอีกครั้งหนึ่งจนกว่าคดีจะมีการตัดสิน เรื่องนี้เกิดขึ้นในวันที่  22 มีนาคม 68 วันที่ 24 มีนาคม 2568 เราพิจารณาทันที

ในส่วนของ คุณภาวนา ที่ถูกยิงเข้าที่บริเวณดวงตาส่งผลให้ ตาบอด 2 ข้าง การจะเยียวยาเราก็ต้องรอให้ทั้ง 2 ท่าน คุณภาวนา คุณสุริยา หายเป็นปกติก่อน ถ้ายังไม่หายดีเราเสนอเยียวยาไปแล้วพิจารณาเลยเราจะเสียสิทธิ์ไม่ได้เต็ม พรบ. ตอนนี้หาก คุณภาวนา หายเป็นปกติ แล้วก็ตกเป็นผู้พิการจริง ๆ จะได้สิทธิ์เยอะ ตัวคุณภาวนาก็ได้ยืนบัตรขอเป็นบุคคลพิการ เพราะฉะนั้นก็จะต้องยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือในเคสนี้เรียบร้อยละ จะเข้าสู่คณะกรรมการในเดือนหน้า ก็จะได้ในส่วนของ

1.ค่าเสียหายที่ได้รับจากการบาดเจ็บ ตามบิลใบเสร็จจ่ายตามใบเสร็จไม่เกิน 40,000 บาท
2.ค่าฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย ไม่เกิน 20,000 บาท
3.ค่าขาดประโยชน์ในการประกอบอาชีพในการทำงาน เวลาไม่มีงานทำ เราก็มีเงินเยียวยาให้ ถ้าเป็นผู้พิการก็จะได้รับในเกณฑ์ตาม พรบ. 1 ปีเต็ม คูณด้วยจำนวนวันแรงงานขั้นต่ำ
4. ค่าเยียวยาพิเศษเพิ่มเติมจากข้อ 1-3 เป็นเคสที่บาดเจ็บรุนแรงจะได้เเพิ่มอีก 50,000 บาท

หลังจากเสร็จสิ้นก็จะมอบเงินทันที

ส่วน คุณสุริยา พ่อครัวนั้น ค่าเยียวยาทั้งการบาดเจ็บได้ไม่เกิน 40,000 บาท ฟื้นฟูไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์จากขาดรายได้ หากเป็นผู้พิการก็จะได้รับเหมือน คุณภาวนา แต่ความรุนแรงจะไม่มากไปกว่า คุณภาวนา เรทการเยียวยาก็จะไม่ต่างกันมาก

“ผมเองก็ต้องออกมายืนยันให้ประชาชนรับทราบรับรู้ไปพร้อมกันเพื่อประโยชน์ของท่านเอง เพื่อเป็นความรู้ไว้” พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่กระทรวงยุติธรรม กล่าว

ขณะที่ด้าน น้องฟอส ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้ามารับฟังในวันนี้แล้วก็รู้สึกสบายใจในคดีดังกล่าว ไม่ได้รู้สึกเคว้งและรู้สึกว่าตนสู้อยู่คนเดียว ทั้งนี้ขอขอบคุณไปยังพี่ ๆ สื่อทุกท่านที่ยื่นมือเข้ามาช่วยผม