นครศรีธรรมราช – พุทธศาสนิกชนลุกฮือต้านกลุ่มพระที่ถูกส่งเข้าวัดนาแล หลัง “หลวงพ่อเพชร” มรณภาพ ส่อไม่โปร่งใสในหลายเรื่อง พร้อมเรียกร้องคืนวัดสงบดังเดิม ยินดียกเงินวัด 15 ล้านให้แล้วห้ามเข้ามาจุ้น
วันนี้ (30 เม.ย.) พุทธศาสนิกชนวัดสโมรสรสันนิบาต หรือที่รู้จักอีกชื่อคือ วัดนาแล ในพื้นที่ ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาดูแลวัดและคอยดูแลความเรียบร้อย โดยบริเวณวัดได้มีการขึ้นป้าย “ชาวนาแลไม่ต้อนรับ หลวงเหมีย หลวงขวิด หลวงเอ็ม” ซึ่งเป็นชื่อของพระที่พยายามเข้ามาบริหารจัดการวัด โดยเฉพาะเรื่องการเงินและการปิดกั้นอาคารและอุปกรณ์ของใช้ต่าง ๆ ภายในวัด ที่พุทธศาสนิชกทายกทายิกาของวัดได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้น ทั้งนี้หลังจาก “พ่อท่านเพชร” หรือพระครูอินทวัชรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนาแลซึ่งถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดว่างลง
ชาวบ้านระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการรวมตัวกันเพื่อแสดงออกและการปฏิเสธพระที่ถูกเจ้าคณะอำเภอส่งมาเป็นรักษาการณ์ตำแหน่งเจ้าอาวาส โดยที่เป็นการส่งคนของตัวเองจากภายนอกวัดเข้ามา ซี่งทายกทายิกาวัดขอปฏิเสธจากพฤติกรรมที่เห็นไม่สมควรหลายประการ ทั้งที่วัดมีความสงบร่มเย็นมานาน มีเงินของวัด เช่น เงินนิตยภัตของ “พ่อท่านเพชร” ที่ได้รับมา ซึ่งพ่อท่านเพชรไม่เคยใช้จ่ายเลยตลอดชีวิตของท่านกว่า 1 ล้านบาท เงินวัดในบัญชีต่าง ๆ อีกรวมกว่า 15 ล้านบาท มีการใช้จ่ายเงินในวัดโดยที่ชาวบ้านไม่รู้ซึ่งผิดวิสัยอย่างมาก เช่น กล้องวงจรปิดบริเวณวัดที่มีชาวบ้านหลายคนเป็นผู้ดูแลสามารถดูได้จากภายนอกวัด กลับถูกรื้อทิ้งและติดตั้งใหม่ การจัดซื้อสิ่งของ การก่อสร้างที่เร่งรีบหลายอย่างโดยที่ชาวบ้านไม่รู้ ก่อนหน้านี้วัดคือศูนย์รวมของชุมชนทุกอย่างภายในวัด พ่อท่านเพชรจะให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมด้วยความโปร่งใส
นางวรรณี ขาวเอียด อายุ 81 ปี ทายิกาของวัดเข้ามาเป็นโยมอุปัฎฐากวัดมาเกือบ 30 ปี ระบุว่า เรียกร้องขอคืนความสงบสุข ความร่มเย็นให้กับวัดที่มีมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา หากอยากได้เงิน 15 ล้านของวัด ก็ขอให้เอาไปเลยแล้วคืนวัดกลับมาให้มีความสงบดังเดิม มีพระสงฆ์ที่เป็นรองเจ้าอาวาสครั้งพ่อท่านเพชรมีวัตรปฏิบัติที่ชาวบ้านเคารพนับถือเชื่อมั่นอยู่แล้ว ไม่ต้องส่งพระสงฆ์ที่ชาวบ้านไม่เชื่อมั่น ไม่ไว้ใจ ซึ่งทั้งอำเภอสิชลต่างรู้จักดีเข้ามายุ่งเกี่ยว
กลุ่มชาวบ้านยังยืนยันด้วยว่า หลังจากที่ส่งพระสงฆ์จากที่อื่นมานั้นอาคารต่าง ๆ ถูกล็อคกุญแจสองชั้นไม่ให้ทายกทายิกาของวัดเข้ามายุ่งเกี่ยว อาคารประกอบเมรุในวัดยังถูกล็อคปิดกุญแจไม่ให้ใช้ หากคนในชุมชนเสียชีวิตจะทำอย่างไร ชาวบ้านไปถามตกกลางคืนส่งคนมาไขกุญแจ รักษาการณ์เจ้าอาวาสที่ถูกแต่งตั้งมาจากที่อื่นจนถึงขณะนี้หลบหน้าตลอดไม่ยอมมาพูดคุย และชาวบ้านยืนยันว่าปฏิเสธพระกลุ่มนี้ที่เข้ามาพยายามครอบงำวัด โดยล่าสุดนั้นนายอำเภอสิชล ได้พยายามเข้าเจรจาเพื่อให้มีการลาออกไปแต่ยังไม่เป็นผล
นอกจากนั้นชาวบ้าน ทายกทายิการอบวัดยังได้นัดหมายที่จะรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เพื่อแสดงออกถึงการปฏิเสธกลุ่มพระสงฆ์จากภายนอกที่พยายามเข้ามาจัดการวัด และอยู่ระหว่างการยื่นหนังสือเรียกร้องไปยังเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝ่ายมหานิกาย และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ด้วย
