ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนขับรถกระบะ เดือด !! เปิดศึกเตะคนขับรถเก๋ง กลางถนน หลังขับรถไล่ชนกัน เบื้องต้นทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักกัน คนขับกระบะ ตะโกน ใส่ ”มึงทำชีวิตกูพัง มึงแกล้งกูเหรอพ่อกูจะตายอยู่แล้ว มึงทำชีวิตกูพังเข้าใจไหม”
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (25 เม.ย.68 ) โซเชียลใน จ.ภูเก็ตได้มีการแชร์คลิป ความยาว 13 วินาที ซึ่งเป็นคลิปเหตุการณ์ชายถือเหล็กยาวกับโทรศัพท์มือถือกำลังกระทืบชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่พื้นถนนข้างรถเก๋งสีบรอนซ์ ที่จอดเกยฟุตบาท โดยมีรถกระบะจอดปิดที่หัวรถเก๋งและมีรถบัสจอดจ่อท้ายกระบะ โดยชายที่ถือเหล็กยาวได้ใช้เท้าถีบเข้าไปที่หน้าของชายที่นั่งอยู่ที่พื้นถนนเข้าอย่างจัง โดยพลเมืองดีถ่ายคลิปดังกล่าวไว้ได้ โดยที่เกิดเหตุ อยู่ใกล้ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ถ.ดาวรุ่งตัดใหม่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต
จากการสอบถาม ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่ารถทั้ง 2คัน ไล่ตามกันมา จากบริเวณสวนศรีภูวนาถ ถนนพัฒนาท้องถิ่นตำบลวิชิต จนกระทั่ง มาถึง บริเวณถนนสวนหลวงเจ้าฟ้า ตำบลวิชิต คนขับรถกระบะ ได้ขับชนรถยนต์เก๋ง จากนั้น คนขับรถ กระบะ ได้ลงมาทุบกระจกรถยนต์เก๋งแล้วคนขับรถยนต์เก๋งได้ลงมานั่งบนพื้นถนนและยกมือไหว้ คนขับรถกระบะในเบื้องต้นทราบว่า น่าจะรู้จักกันมาก่อน แต่อาจจะมีตกลงอะไรบางอย่างกันไม่ได้ จึงมีการขับรถไล่ชนกันมาเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้จอด
อย่างใรก็ตามขณะเกิดเหตุ คนขับรถกระบะ ได้ถ่ายคลิป ไว้ด้วย โดยขณะที่ลงมาจากรถได้พูดกับคนขับรถเก๋ง ว่า “มึงทำชีวิตกูพัง มึงแกล้งกูเหรอพ่อกูจะตายอยู่แล้ว มึงทำชีวิตกูพังเข้าใจไหม ไม่พังอย่างไร กูไม่เหลืออะไรแล้วมีแต่ความสิ้นหวัง ”
หลังจากนั้น คนขับรถกระบะก็บอกชาวบ้านระแวกนั้นว่า ผมดิ้นรนชีวิตมาตั้งนานเขามาทำชีวิตผมพัง ผมไม่มีใครเลยผมรับงานกระจก พ่อผมจะตาย มันแกล้งผมมันไม่สนใจ
ล่าสุด พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต เปิดเผยถึงคลิปเหตุการณ์ไล่ชนกันกลางถนนและทำร้ายร่างกายกันในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต นั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.57 น.วันที่ 25 เม.ย.ริมถนนหน้าโรงแรมซีเบดแกรนด์ ถ.เจ้าฟ้าสวนหลวง หมู่ 2 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต คนก่อเหตุทราบชื่อคือ นายณัฐพล ส่วนผู้ที่ถูกทำร้าย คือ นายฉัตรชัย เบื้องต้นคู่กรณีทั้งสองฝ่ายรู้จักกันมาก่อน แต่มีปัญหากันเรืองเงินค่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง เป็นเหตุต่อเนื่องได้ไล่ติดตามกันมาจนถึงบริเวณที่เกิดเหตุ และได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายกัน หลังเกิดเหตุคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวทั้งคู่มาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป