xs
xsm
sm
md
lg

ป่าไม้ภูเก็ตปักป้ายตรวจยึดที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง ร้านอาหารดังริมทะเลภูเก็ต บุกรุกพื้นที่ป่า ด้านเจ้าของร้องขอความเป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต – ป่าไม้ร่วมเจ้าท่าภูเก็ต ปักป้ายตรวจยึดที่ดินเนื้อที่ 4 ไร่เศษ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 17 รายการ ที่ตั้งร้านอาหารชื่อดังริมทะเล พร้อมแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่าไม้ และก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ด้านเจ้าของร้านขอความเป็นธรรม ร้านยังไม่ใช่ผู้กระทำผิด



เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (24 เม.ย.68) ป่าไม้จังหวัดภูเก็ต นำโดยนายสรศักดิ์ รณะนันทน์ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ภูเก็ต พร้อมด้วย นายณชพงศ ประณิตย์ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต พร้อมตัวแทนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต เข้าดำเนินการปักป้ายตรวจยึดพื้นที่ จำนวน 4 ไร่ ที่ผู้อ้างการครอบครองไม่มีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ภูเก็ต ที่เข้ามาตรวจสอบเมื่อเร็วๆนี้ และตรวจยึดสิ่งปลูกสร้าง 17 รายการ บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ติดริมทะเล ชุมชนหัสนานิเวศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ใกล้ๆสำนักงานอัยการสูงสุด


โดยเจ้าหน้าที่ได้ปักป้าย 2 จุด คือ ที่บริเวณด้านข้างทางเข้าร้าน ซึ่งได้ทำเป็นประตูรั้วสังกะสีไว้ และด้านข้างสุดที่ดินของร้านอาหารดังกล่าว ในขณะเดียวกันทางร้านอาหารได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ว่า ที่นี่เป็นที่งอกจากโฉนด เลขที่ 15632 เลขที่ดิน 307 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามระวางนี้ ห้ามบุกรุก โดยไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้าที่มาใช้บริการยินดีต้อนรับ”


นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ภูเก็ต กล่าวว่า การมาปักป้ายตรวจยึดพื้นที่ในวันนี้ เป็นไปตามระเบียบของกรมป่าไม้ หลังจากได้รับการร้องเรียนและได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา พบผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 1 ราย มีการบุกรุกที่ดินเนื้อที่ 4ไ ร่เศษ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 17 รายการ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกไปแล้ว ที่สภ.เมืองภูเก็ต วันนี้จึงได้บูรณาการกับทางเจ้าท่าภูเก็ต สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาปักป้ายตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวในวันนี้ หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่ขบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
.
ขณะที่ นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้ภูเก็ตและสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภูเก็ต เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ในการลงพื้นที่ตรวจสอบการตรวจสอบการก่อสร้างรุกล่ำลำน้ำของร้านอาหารดังกล่าว หลังลงพื้นที่ได้ออกหนังสือให้ผู้ครอบครองที่ดินชี้แจงการขออนุญาติก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำว่าได้ยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานหรือไม่ ภายใน 15 ซี่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น ยังไม่ได้มีใบอนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด ทางเจ้าท่าจึงได้ทำหนังสือแจ้งให้ทางร้านรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมแนวกั้นตลิ่งกันน้ำทะเลกัดเซาะ เนื้อที่ 950 ตารางเมตร ยาว 140 เมตร โดยต้องรื้อถอนภายใน 90 วัน แต่ทั้งนี้ผู้ครอบครองที่จะอุทรณ์คำสั่งดังกล่าวได้กับทางเจ้าท่าได้ เพื่อความเป็นธรรม และได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สภ.เมืองภูเก็ตในทางอาญาอีกด้วย


หลังเจ้าหน้าที่เข้าปักป้ายตรวจยึด ทางร้านอาหารดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนางสาวภาวินี เสมาตระกูล เจ้าของร้านคนไท 2 และนายอิศรเรศ บุศยะรัฐ ทนายความและที่ปรึกษาด้านกฎหมายร้านอาหารคนไท 2 ได้ร่วมกันแถลงข่าวขอความเป็นธรรม ว่า ร้านอาหารดังกล่าวนั้น ตนได้รับช่วงบริหารต่อมาจากพ่อและอา ที่ได้เช่าที่ดินจากเจ้าของที่ดินแปลงโฉนดเลขที่ เลขที่ 15632 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งพ่อได้ทำมาตั้งแต่ปี 2544 เมื่อพ่อเสียชีวิต ทางเจ้าของที่ดินที่ให้เช่า ก็ได้เรียกตนซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกเซ็นต์รับภาระหนี้ และหลังจากที่ตนมาบริหารก็มีปัญหาเรื่องการจ่ายค่าเช่า จนทางผู้ดูแลที่ดินได้ยื่นโนติสมาอีกครั้ง จนถึงขั้นฟ้องขับไล่ออกจากพื้นที่ และยกเลิกสัญญาเช่า แต่ก็ได้มีการประนีประนอมกันในชั้นศาล จนเจ้าของที่ยอมยกหนี้ให้ทั้งหมดและตรวจสอบพบว่าที่ดินที่ตั้งของร้านไม่ได้อยู่โฉนดดังกล่าว ตนจึงได้ครอบครองที่ดินแปลงนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้และที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมทั้งได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและแผ้วถางป่า ทั้งที่พื้นที่ไม่ได้เป็นป่าแต่อย่างใด และนำป้ายมาปักในวันนี้


นางสาวภาวินี กล่าวต่อว่า ตนอยากจะขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในที่ดินแปลงดังกล่าว ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้มีเรียกไปชี้แจงอะไรใดๆทั้งสิ้นถึงที่มาที่ไปของที่ดินแปลงนี้ มาแจ้งข้อหาบุกรุกและแผ้วถางป่า ทั้งที่ที่ดินไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าแต่อย่างใด และหลังจากที่ตนได้เข้ามาทำร้านต่อจากพ่อสภาพพื้นที่ก็เป็นตามที่เห็นอยู่ในขณะนี้ อาจจะมีการปรับปรุงบ้างในส่วนของอาคารที่ปรับเป็นติดแอร์เพื่อให้ลูกค้าสะดวกสบายมากยิ่งขั้น

“ข่าวที่เกิดขึ้นตามสื่อโซเซียลต่างๆ ที่ลงข่าวว่าทางร้านบุกรุกป่า ตรวจสอบแล้วยังเปิดอยู่ได้อย่างไร เราถูกโจมตีมาโดยตลอด เอาร้านของเราไปเกี่ยวโยงกับเรื่องการเมือง ในเพจบางเพจ ทำให้ร้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลังมีข่าวออกไปช่วงแรกลูกค้าหายไปเกือบหมด ลูกค้าโทรมาถามว่าร้านยังเปิดอยู่หรือไม่ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านเป็นกลุ่มข้าราชการ ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่กล้ามารับประทานอาหารที่ร้าน เพราะกลัวจะเสียชื่อเสียงว่าสนับสนุนร้านที่บุกรุกป่า” เจ้าของร้านคนไท 2 กล่าวและว่า

อยากขอความเป็นธรรมและขอความเห็นใจ ขณะศาลยังไม่ได้ตัดสิน เรายังไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด ร้านยังเปิดให้บริการทุกวัน


ด้าน นายอิศรเรศ บุศยะรัฐ ทนายความและที่ปรึกษาด้านกฎหมายร้านอาหารคนไท 2 กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวที่เป็นที่ตั้งของร้านคนไท 2 ในอดีตไม่เคยมีหน่วยงานราชการใดๆ เข้ามาแจ้งเกี่ยวกับที่ดินที่ร้านอาหารตั้งอยู่ แม้แต่ในวันนี้การปักป้ายตรวจยึดไม่มีหน่วยงานใดๆ แจ้งให้ทราบมาก่อนเลย ยกเว้นกรณีที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ที่แจ้งเป็นหนังสือให้ร้านอาหาร ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินที่มีการตรวจยึดเนื่องจากตามระเบียบกฎหมายของกรมเจ้าท่าเป็นสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ในเรื่องนี้ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่เจ้าท่าเหมือนกัน

สำหรับการตรวจสอบในสารบบที่ดินพบว่า แนวโฉนดที่ดินด้านตอนใต้ติดทะเล มีต้นสน และต้นหูกวาง ที่เป็นไปไม่ได้ ต้นไม้จะงอกในทะเล นอกจากนี้ยังทราบมาว่าเจ้าของผู้ครอบครองเอกสารสิทธิที่ดิน เคยมีคดีความกับกรมป่าไม้ และปรากฏว่า เจ้าของที่ดินชนะคดี ในเรื่องนี้อาจจะต้องไปตรวจสอบ ร่วมควบคู่ไปกับคณะกรรมการระดับจังหวัด ที่ดูแลเกี่ยวกับปัญหาที่ดินต่างๆ ที่อาจจะจำเป็นพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับที่ดินงอกนี้ด้วยการเจาะสำรวจชั้นดิน รวมไปถึงการใช้ภาพถ่ายทางอากาศของหน่วยงานกลางมาตรวจสอบร่วมด้วย ส่วนในอนาคตนั้นจะสามารถยื่นขอเอกสารสิทธิที่ดินได้หรือไม่ อย่างไร ก็ต้องดำเนินการต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น