xs
xsm
sm
md
lg

คืบหน้า! พบคนร้ายขโมยรถ จยย.มาจากปัตตานีนำมาซุกระเบิดบึ้มริมรั้วแฟลต ตร.สภ.โคกเคียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นราธิวาส - เจ้าหน้าที่ตรวจจุดเกิดเหตุระเบิดริมรั้วแฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน พบคนร้ายขโมยรถ จยย.มาจากพื้นที่ปัตตานี ก่อนนำมาต่อพ่วงข้างและซุกระเบิดหนัก 80 กก. นำมาใช้ในการก่อเหตุ

วันนี้ (21 เม.ย.) พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รองผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.วีระยุทธ์ ตาสีพัน ผกก.สภ.โคกเคียน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบบริเวณถนนข้างกำแพงรั้วด้านหลังของแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน ในพื้นที่บ้านทอนฮีเล ม.10 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้นำรถ จยย.แบบพ่วงข้างซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องมาจอดไว้ก่อนเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเด็กได้รับบาดเจ็บ รวม 10 ราย โดยทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบผิวถนนลาดยางมีหลุ่ม ลึก 40 ซ.ม. กว้าง 200 ซ.ม. และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง รวมถึง รถ จยย.พ่วงข้าง กระจายเกลื่อนทั่วบริเวณเป็นรัศมีกว้าง 50 เมตร และกำแพงรั้วซึ่งเป็นอิฐบล็อบถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหาย 2 ช่วง ยาว 10 เมตร รวมถึงมีกระจกหน้าต่างและทรัพย์สินบางส่วนภายในห้องพักแฟลตที่เจ้าหน้าที่อาศัยอยู่ จำนวน 4 ชั้น ได้รับความเสียหาย โดยกระจกแตกเสียหายทุกห้อง


นอกจากนี้บริเวณใต้ถุนอาคารแฟลตที่พัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้ในการจอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์พบว่า มีรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ ของเจ้าหน้าที่ ถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหายจำนวน 9 คัน มีทั้งกระจกแตก ตัวถังยุบเป็นรูจากเศษระเบิด และบางคันกระโปรงหลังรถฉีก อีกทั้งยังมีรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหายอีก จำนวน 17 คัน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดตามตัวถังและส่วนต่างๆของรถ

ขณะที่บริเวณโดยรอบ สะเก็ดระเบิดและชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ซุกระเบิด ได้กระเด็นไปถูกบ้านเรือนของประชาชน ที่อาศัยอยู่โดยรอบได้รับความเสียหาย จำนวน 22 หลัง ส่วนใหญ่เป็นกระเบื้องมุงหลังคา และฝ้าเพดาน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่คนร้ายได้แอบซุกซ่อนระเบิดมาใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ พบว่าไม่ได้มีการติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งจากการตรวจสอบหมายเลขเครื่องนั้นเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ที่ได้มีการแจ้งหายไว้ในพื้นที่ จ.ปัตตานี และคนร้ายได้นำมาประกอบเป็นรถพ่วงข้างใช้เป็นพาหนะในการซุกซ่อนระเบิดมาก่อเหตุ


และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ โดยคนร้ายอาศัยความมืดขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจากทางด้านหลังของหมู่บ้าน มาจอดที่บริเวณกำแพงรั้วของแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้วิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ทำหน้าที่มารับหลบหนีไป จากนั้นประมาณ 1 นาที ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเด็กๆ รวม 10 ราย ได้รับบาดเจ็บและแฟลตที่พัก บ้านเรือนประชาชน และรถยนต์ รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย

จากการพูดคุยกับผู้ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ เปิดเผยว่าเมื่อวานขณะเกิดเหตุนั้น ในหมู่บ้านด้านหลังแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน มีการจัดงานบุญและมีเด็กจำนวนหนึ่งเดินเท้าเพื่อไปเรียนอัลกุรอ่าน โดยระหว่างทางเห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจากทางด้านหลัง และได้มาจอดไว้ที่บริเวณกำแพงรั้ว จากนั้นคนร้ายได้ได้บอกกับเด็ก ๆ ว่าให้รีบเดินหนี อย่าเข้าใกล้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่จอดอยู่ ขณะเดียวกันมีกลุ่มเด็กจำนวนหนึ่งที่นั่งรถยนต์จากนั้นไม่นานก็เกิดเสียงดังขึ้น


ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น จำนวน 10 ราย ปัจจุบันแพทย์ได้อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านพักได้แล้ว 1 ราย โดยแยกผู้บาดเจ็บไปนอนใน 2 โรงพยาบาล ประกอบด้วย ที่โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ 2 ราย ประกอบด้วย 1.ด.ช.อัครวินท์ แดมะยู อายุ 14 ปี มีอาการแน่นหน้าอกมีบาดแผลบริเวณชายโครงด้านขวา และ 2.นายรุซลี บินยา อายุ 45 ปี มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก รู้สึกตัวดี

และที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯ 7 ราย คือ 1. ด.ญ.นัชมีย์ ศรีมารักษ์ อายุ 15 ปี มีแผลถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าอกขวา 2.ด.ช.มูฮัมหมัดฮาฟิซ ยะปา อายุ 11 ปี มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก 3.ส.ต.อ.อุสมาน แมแมแล อายุ 35 ปี มีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก 4.ด.ญ.ชาลิสา สังข์สุวรรณ อายุ 7 ปี อาการตกใจใจสั่น 5.ด.ญ.ธัญญพร สังข์สุวรรณ อายุ 9 ปี มีอาการตกใจปวดศีรษะ 6.ด.ญ.ฮานานี ซามะ อายุ 15 ปี มีอาการแน่นหน้าอก ตกใจ และ 7. ด.ช.อัสมีน ดือเระ อายุ 14 ปี มีบาดแผลบริเวณกรามข้างขวาและบริเวณคอข้างขวา

สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ได้ก่อเหตุป่วนในพื้นที่ โดยการก่อเหตุในลักษณะวางระเบิดริมรั้วนั้นมีรวมกันแล้ว 4 ครั้ง คือ 1.ที่กำแพงรั้ว อส.อำเภอแว้ง, 2.ที่กำแพงรั้วหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษ อ.จะแนะ, 3. ที่บริเวณกำแพงรั้ววัดบ้านไทย อ.ระแงะ และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่กำแพงรั้ว สภ.โคกเคียน โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการเน้นย้ำให้กองกำลังทุกหน่วยเฝ้าระวังการก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้ในพื้นที่อื่น ๆ ด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น