กระบี่ - อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ สุดปัง จัดเก็บรายได้ 2 ระบบ ในรอบ 6 เดือนแรกของปี งบประมาณ 2568 สูงถึง 391,283,370 บาท ยันโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยันโปร่งใส ตรวจสอบได้ไม่มีหมกเม็ด
สำหรับแห่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ในส่วนของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี นับว่าเป็นแห่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติ ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะทะเลกระบี่เป็นทะเลที่สวยงาม ส่งผลให้การจัดเก็บค่าเข้าอุทยานพุ่งทยานสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่หลายคนก็มีความกังวลว่ารายได้ที่จัดเก็บเป็นรายได้ที่ถูกต้อง จัดเก็บเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแสงสุรี ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ซึ่งมีพื้นที่จัดเก็บรายได้ รวม 9 จุด ประกอบด้วยหน่วยพิทักษ์อุทยาน 7 หน่วยและ 2 ศูนย์ให้บริการ ได้แก่ หน่วยพิทักษ์เกาะปดอดะ หน่วยพิทักษ์ทะเลแหวก หน่วยพิทักษ์เกาะไม้ไผ่ หน่วยพิทักษ์เกาะพีพี หน่อยพิทักษ์อ่าวมาหยา หน่วยพิทักษ์อ่าวไร่เล หน่วยพิทักษ์ทับแขก และศูนย์บริการท่องเที่ยวสุสานหอย 75 ล้านปี ศูนย์บริการท่องเที่ยวหาดนพรัตน์ธารา
โดยหลักๆมีมาตรการจัดเก็บ 2 แบบคือ การจัดเก็บแบบ e-ticket (ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์) และ การฉีกตั๋วค่าธรรมเนียมหน้างาน จะมีเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยและเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คความปลอดภัยและความเรียบร้อยหน้าชายหาด ที่มีเรือนำเที่ยวนำนักท่องเที่ยวเข้ามา ในการปฏิบัติคือเมื่อเรือนำเที่ยวเข้ามาจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจนับจำนวนนักท่องเที่ยว ในกรณีที่เป็นบริษัททัวร์มีไกด์นำเที่ยวนำเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่จะดูใบงาน ซึ่งจะแจ้งจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ และตรวจว่ามาครบตามใบงานหรือไม่ กรณีที่มาครบเจ้าหน้าที่จะแจ้งไปยังป้อมเก็บค่าธรรมเนียมว่ามาครบ ทุกขั้นตอนโปร่งใสตรวจสอบได้
นายแสงสุรี เปิดเผยอีกว่า ส่วนในกรณีที่นักท่องเที่ยวเกินจากจำนวนที่ได้แจ้งมา เจ้าหน้าที่จะแจ้งไปที่ป้อมเก็บค่าธรรมเนียมโดยให้ไกด์แต่ละคนและคนขับเรือแต่ละลำไปจ่ายค่าธรรมเนียม โดยใช้วิทยุสื่อสารแจ้งชื่อไกด์ ชื่อเรือและจำนวนนักท่องเที่ยว ในกรณีที่นักท่องเที่ยวมาเกินจากที่บริษัททัวร์แจ้งมา เจ้าหน้าที่จะเก็บตามอัตราค่าธรรมเนียมคือ ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 400 บาทต่อคน เด็ก 200 บาทต่อคน ส่วนนักท่องเที่ยวไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
สำหรับรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ยอดการจัดเก็บรายได้รวมอยู่ที่ 391,282,370 บาท แยกเป็นเดือนตุลาคม 2567 จำนวน 49,343,130 บาท เดือนพฤศจิกายน 2567 จำนวน 67,928,620 บาท เดือนธันวาคม 2567 จำนวน 71,108,370 บาท เดือนมกราคม 2568 จำนวน 73,850,185 บาท เดือนกุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 69,993,475 บาท และเดือนมีนาคม 2568 จำนวน 59,059,590 บาท โดยเฉลี่ย มียอดนักท่องเที่ยวเข้าชม วันละไม่น้อยกว่า 3,000-5,000 คน จัดเก็บรายได้ กว่า 1 ล้านบาท ต่อวัน
นายแสงสุรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ โดยการติดตั้งทุนลอยน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆเช่น ใช้เป็นสถานที่จอดเรือนำเที่ยว ใช้เป็นสถานที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำและดำน้ำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดที่ค่อยเฝ้าระวังอยู่บริเวณชายหาด ซึ่งทางอุทยานฯเน้นการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก นอกจากนี้ยังดูแลเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯมีเจ้าหน้าที่ค่อนข้างจะเยอะ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเมื่อประสบเหตุ
ทั้งได้มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์ทางน้ำ ในกรณีที่นักท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุจมน้ำและได้รับอุบัติเหตุทางเรือ ซึ่งเรามีมาตรการต่างๆที่ค่อนข้างจะรัดกุม ตลอดจนการฝึกซ้อมแผนให้กับเจ้าหน้าที่ทุกเดือน เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจว่าเมื่อเข้ามาท่องเที่ยวในเขตอุทยานดังกล่าวมีความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หากกรณีเกิดอุบัติเหตุสามารถนำส่งสถานพยาบาลที่ตั้งอยู่โดยรอบได้อย่างทันเวลา ซึ่งเราได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกคนว่าจะต้องให้บริการอย่างสุภาพ นักท่องเที่ยวเข้ามาได้อย่างปลอดภัยและเกิดความประทับใจกลับไป