ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ตำรวจคุมตัวโจรมาเลย์ชิงทองกลับมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจับตัวได้ที่สถานีขนส่งกรุงเทพสายใต้ใหม่ สารภาพซื้อปืนและบัตรประชาชนปลอมมาในราคารวม 150,000 บาท และได้วนดูลาดเลามาก่อนแล้วกว่า 10 รอบ
วันนี้ (10 เม.ย.) พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รองผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรสงขลา และ สภ.หาดใหญ่ ควบคุมตัว นาย ยี บุน ลง อายุ 62 ปี ชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองห้างทองไทยอุดม 2 ตั้งอยู่ถนนมนตรี 1 ย่านตลาดสดพลาซ่าใจกลางเมืองหาดใหญ่ ได้ทองไป 138 บาท มูลค่าราว 7 ล้านบาท
โดยถูกตำรวจตามไปจับกุมได้ภายในสถานีขนส่งกรุงเทพสายใต้ใหม่ ก่อนจำนำตัวเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินตำรวจมาทำแผนประคำรับสารภาพ โดยมีการจัดกำลังตำรวจคุมรอบพื้นที่ร้านทองอย่างแน่นหนา
จุดแรกได้นำตัวไปทำแผนที่ร้านทองห้างทองไทยอุดม 2 เริ่มจากขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านข้าวมันไก่ แล้วเดินเข้าไปก่อเหตุชิงทองภายในร้าน ก่อนจะเดินกลับมาขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป, จุดที่ 2 ภายในซอยถนนทิพรัตน์ตัดถนนแสงศรีที่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งและเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนกางเกง, จุดที่ 3 จุดที่ขึ้นจักรยานยนต์รับข้างหน้าตลาดกิมหยงไปยังสถานีขนส่งหาดใหญ่, จุดที่ 4 จุดที่ไปลงรถจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณวงเวียนข้างสถานีขนส่งหาดใหญ่, จุดที่ 5 เป็นหอพักในซอย 10 ถนนศรีภูวนารถซึ่งเป็นหอพักที่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และจุดที่ 6 ที่สถานีขนส่งหาดใหญ่ตอนขึ้นรถทัวร์หนีไปกรุงเทพฯ
โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพทุกจุดผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุความวุ่นวายแต่อย่างใด แม้จะมีประชาชนมามุงดูการทำแผนทุกจุด จากนั้นจึงได้คุมตัวส่ง สภ.หาดใหญ่เพื่อดำเนินคดีใน 3 ข้อหาตามหมายจับที่ออกไปคือ ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน และทำด้วยประการใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ และข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเหตุอันควร
ในส่วนของทองน้ำหนัก 138 บาท ทั้งสร้อยคอทองคำและสร้อยคอมือทองคำนั้น ตำรวจได้นำไปตรวจนับอย่างละเอียดอีกครั้งและเตรียมส่งคืนร้านทองต่อไป
ขณะที่ในทางการสืบสวนนั้นพบว่า นายยีบุนลง รับสารภาพว่าก่อเหตุเพียงคนเดียวไม่มีใครเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยปืนซื้อมาจากในอำเภอหาดใหญ่ราคา 110,000 และซื้อบัตรประชาชนมาในราคาประมาณ 40,000 กว่าบาท และเคยมาดูลาดเลาที่ร้านทองแห่งนี้ประมาณ 10 กว่าครั้งก่อนลงมือ
และในวันนี้พรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เตรียมส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสงขลา
