ตรัง - ชาวใต้สุดช้ำราคายางดิ่งเจอหมูแพงซ้ำ พุ่งทะลุกว่า 200 บาท/กก. ผู้ค้าเขียงหมูเผยสาเหตุเหลือแต่ฟาร์มใหญ่กำหนดราคา ผู้เลี้ยงรายย่อยตายเรียบจากพิษหมูเถื่อน หมูย่างเมืองตรังพุ่งทะยาน 600 บ./กก.แล้ว
วันนี้ (10 เม.ย.) สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ จ.ตรัง จากการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาซึ่งส่งผลต่อราคายางพาราในพื้นที่ที่ตกต่ำลงอย่างรุนแรงต่อเนื่อง โดยเพียงวันเดียวราคาดิ่งลงกว่า 10 บาท/กก. โดยปัจจุบันราคาน้ำยางสด (ราคาหน้าสวน) เหลือเพียง 46 บาท/กก. จากช่วงกลางเดือนมีนาคมยังอยู่ที่เฉลี่ย 70 บาท/กก. ทำให้เกษตรกรและประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากรายได้ที่ลดลงแบบฉับพลันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเป็นช่วงใกล้เปิดเทอมที่บรรดาผู้ปกครองต้องเตรียมภาระค่าใช้จ่ายสำหรับบุตรหลานไปโรงเรียน ทำให้สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ซบเซาเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันจากการสำรวจราคาสินค้าในตลาดสดเทศบาลนครตรัง อำเภอเมืองตรัง พบว่าสินค้าที่มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ คือ เนื้อหมู โดยเฉลี่ยราคาขายพุ่งทะลุกิโลกรัมละกว่า 200 บาทแล้ว ขณะที่หมูย่างเมืองตรังอันโด่งดังก็ต้องปรับราคาขึ้นด้วย เนื่องจากต้นทุนหมูสดขึ้นราคา โดยหมูย่างเมืองตรังเดิมจำหน่ายราคากิโลกรัมละ 500-550 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 580 -600 บาท
โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ระบุ สาเหตุเพราะผู้เลี้ยงรายย่อยสู้ราคาต้นทุนไม่ไหวจึงเลิกเลี้ยง ทำให้ไม่มีหมู หมูขาดตลาด เหลือแต่ฟาร์มขนาดใหญ่จึงกลายเป็นผู้กำหนดราคา ภาพรวมขณะนี้ในระยะเวลาเดือนเศษ หมูหน้าฟาร์มปรับขึ้นมาแล้วรวมกิโลกรัมละกว่า 20 บาท หมูหน้าฟาร์มขายเขียง จากเคยกิโลกรัมละ 68 -70 บาท ขณะนี้ปรับเป็นกิโลกรัมละ 92 บาท ขณะที่หมูหน้าฟาร์มขนาดสำหรับทำหมูย่าง จากเดิมกิโลกรัมละ 80 บาท ตอนนี้ปรับมาเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท และแนวโน้มยังปรับขึ้นอีกต่อเนื่อง ทำให้เดือดร้อนกันถ้วนหน้า
พ่อค้าเขียงหมูรายหนึ่ง บอกว่า ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับขึ้นต่อเนื่องมาตลอดเดือนเศษ แต่ละครั้งจะปรับขึ้นประมาณครั้งละ 2-4 บาท/กก. ทำให้ต้องปรับราคาขายตาม โดยหมูสามชั้น จากเดิม 180 บาท/กก. ปรับเป็น 200-220 บาท/กก. หมูเนื้อแดง จาก 150 บาท/กก. ปรับเป็น 170 บาท/กก. เนื้อติดมันจาก 150 บาท/กก. ปรับเป็น 160 บาท/กก. ซี่โครงจากเดิม 140 -150 บาท/กก. ปรับเป็น 150 -170 บาท/กก. ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับราคาหน้าฟาร์มที่แต่ละแห่งจะซื้อมาไม่เท่ากัน ส่วนสาเหตุทราบมาว่าเพราะไม่มีหมู ผู้เลี้ยงรายย่อยเลิกเลี้ยง เหลือแต่ฟาร์มขนาดใหญ่ หมูส่วนหนึ่งถูกส่งไปภาคกลาง สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ขายยากมากขึ้น เพราะลูกค้าก็เลือกตัดสินใจซื้อแบบประหยัด
นายประจักษ์ แต่งสวน (สวมแว่น) พ่อค้าเขียงหมู ตลาดสดเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ตอนนี้ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับราคาขึ้นอย่างมาก สาเหตุเพราะไม่มีหมู เพราะผู้เลี้ยงรายย่อยเลิกเลี้ยงหมูไปหมดแล้ว เพราะสู้ต้นทุนด้านอาหารไม่ไหว เพราะอาหารก็เป็นของบริษัทใหญ่ จึงเหลือแต่หมูของฟาร์มใหญ่ หากไม่สั่งหมูฟาร์มก็จะไม่มีหมูขาย จึงกลายเป็นฟาร์มขนาดใหญ่เป็นผู้กำหนดราคาเองทั้งหมด โดยในระยะเวลาเพียงเดือนเศษ ปรับขึ้นครั้งละ 2-4 บาท/กก. โดยตอนนี้ราคาขึ้นมาแล้วกว่า 20 บาท/กก. จากเดิมหมูหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 68-70 บาท ตอนนี้กิโลกรัมละ 92 บาท หากหมูน้ำหนักตัวละ 100 กิโลกรัม เขียงต้องจ่ายเพิ่มตัวละประมาณ 2,200 บาท ด้านราคาขายส่วนตัวก็ไม่กล้าปรับมากนัก ต้องค่อย ๆ ปรับและต้องแจ้งลูกค้าล่วงหน้า เพื่อให้รู้สถานการณ์ กลัวกระทบลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ หลังจากนี้ก็เชื่อว่าราคาหมูหน้าฟาร์มยังปรับขึ้นอีก อาจแตะที่ราคากว่า 100 บาท/กก.แน่นอน
“ทั้งนี้ ราคาที่ปรับขึ้นอย่างมาก เชื่อว่าเมื่อก่อนมีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาตีตลาด ผู้เลี้ยงรายย่อยก็เลิกเลี้ยงไปหมดเพราะทนขาดทุนและสู้ต้นทุนอาหารไม่ได้ พอมีการปราบหมูเถื่อนได้ ตอนนี้จึงเหลือแต่ฟาร์มขนาดใหญ่ ทำให้ราคาหมูปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว และหมูย่างก็เช่นกันต้องเอาหมูจากฟาร์มขนาดใหญ่เท่านั้น ทำให้ต้องปรับราคาขายเช่นกัน” นายประจักษ์กล่าว
ด้านนางปราณี รักนาชาติ แม่ค้าขายหมูย่างเมืองตรัง กล่าวว่า ตอนนี้หมูขาดหรือมีน้อย ไม่ทราบว่าเพราะอากาศร้อน หรือส่งไปขายที่อื่น หรือผู้เลี้ยงรายย่อยไม่มีแล้ว จึงเหลือแต่หมูฟาร์ม โดยไซส์สำหรับทำหมูย่าง ราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ 100 บาท/กก. จากเดิม 80 บาท/กก. และยังจะปรับขึ้นอีก ส่วนหมูย่างราคาขายจากเดิม 560 บาท/กก. ตอนนี้ปรับเป็น 580-600 บาท/กก.แล้ว ขึ้นอยู่กับราคาหน้าฟาร์มแต่ละแห่ง
