ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศาล จ.สงขลา ออกหมายจับชายชาวมาเลเซีย ใช้ปืนจี้ชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ ผู้การภาค 9 ตั้งค่าหัว 1 แสนบาท ระดมชุดสืบสวนล่าตัว ทหารจัดกำลังออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันหลบหนีออกนอกประเทศ
ความคืบหน้าคดีคนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวปล้นร้านทองห้างทองไทยอุดม 2 ถนนมนตรี 1 ย่านตลาดสดพลาซ่า ใจกลางเมืองหาดใหญ่ เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) นั้น ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับนายอาหวู่พะ หรืออุ หรืออาเฮีย สินเกา หรือ นายอนุชา แซ่โหยว หรือ นายยีบุนลง ชาวมาเลเซีย ในข้อหากระทำความผิดฐานชิงทรัพย์และพกพาอาวุธปิน นอกจากนี้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยังได้ตั้งค่าหัวให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสจำนวน 1 แสนบาท
ในส่วนของทีมสืบสวน ทั้งตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ตำรวจภูธร จ.สงขลา และตำรวจภูธรภาค 9 ได้ลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังเกิดเหตุ โดยตามไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ในเมืองหาดใหญ่รวมถึงในพื้นที่ อ.สะเดา โดยตำรวเชื่อว่า นายยีบุนลงน่าจะยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ ไม่น่าจะหลบหนีออกไปยังมาเลเซีย
นอกจากยังมีการเผยแพร่ภาพ นายยีบุนลงทางสื่อโซเชียลเพื่อให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมอีกช่องทางหนึ่งด้วยพร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนหากพบเห็นให้รีบแจ้งตำรวจในพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพราะเป็นบุคคลอันตราย
ในส่วนของพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยมาเลเซีย ทหารกองกำลังเทพสตรี ร้อย ร.5021 ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4303-4304 ได้จัดกำลังออกลาดตระเวนตามช่องทางธรรมชาติ ทั้งแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน อ.สะเดา และ ต.ปาดังเบซาร์ เพื่อป้องกันคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศ
สำหรับประวัติของนายยีบุนลง ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย เคยถูกจับเมื่อปี 2560 โดยตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุยิง นายมนตรี แซ่กัง และนายศรีรัตน์ แซ่กัง สองพี่น้องเสียชีวิตที่บ้านเช่าเลขที่ 4/6 หมู่3 ต.เกาะยอ อ.เมืองจ.สงขลา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 และเคยก่อเหตุปล้นร้านทองที่เมืองบัตเตอร์เวิร์ด ประเทศมาเลเซียเมื่อ 20 ปีก่อน ได้ทรัพย์สินไป 50 ล้านบาท ก่อนที่จะหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทยประมาณ 10 ปี
ส่วนบัตรประชาชนปลอมซึ่งใช้ชื่อว่านายอนุชา แซ่โหยว ซื้อมาในราคา 250,000 บาท ที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นชื่อของชาวเขา ส่วนใบขับขี่และบัตรประกันสุขภาพก็ทำปลอมขึ้นมาทั้งหมด
นอกจากนี้ ในช่วงที่อยู่ในมาเลเซียยังเป็นมือปืนรับจ้างด้วย โดยก่อเหตุฆ่าในมาเลเซียมาแล้วอย่างน้อย 10 คน
