xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์” ฉะ พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เตือนระวังจุดจบเหมือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “สาทิตย์” ฉะ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขอค้านสุดตัวเปิดช่องกาสิโน หวั่นสารพัดผลกระทบสังคม ไทยไม่พร้อม เชื่อเป็นดีลปีศาจภาคต่อ เปิดช่องกลุ่มทุนหาเงินทำการเมือง เตือนระวังจุดจบเหมือน รบ.ยิ่งลักษณ์ ใช้เสียงข้างมากแบบไม่ยี่หระประชาชน เผยหลายกลุ่มติดต่อรวมตัวเคลื่อนไหวแล้ว

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่บ้านวงศ์หนองเตย อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต สส.ตรังหลายสมัย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลพยายามผลักดันร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า ตนไม่เห็นด้วยและจะคัดค้านตามแนวทางของตน เพราะการที่รัฐบาลพยายามผลักดันเรื่องบ่อนกาสิโนโดยพยายามจะใช้ชื่อที่หรูหราว่าเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สะท้อนสองเรื่องในสังคมไทยเกี่ยวกับรัฐบาลชุดนี้ คือ 1.ความไม่สนใจหรือไม่ยี่หร่าต่อประชาชนของรัฐบาลชุดนี้ ที่มาจากดีลปีศาจคู่กันไปในสภา ซึ่งความไม่สนใจหรือความไม่ยี่หระนี้มีมาตั้งแต่กฎหมายที่ไม่ติดคุก หรือติดคุกทิพย์ ไม่ติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว ตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาลแล้ว ซึ่งส่วนตัวก็เชื่อว่ามาจากดีลปีศาจนี้ ส่วนใครจะอยู่ในดีลใครจะอยู่เบื้องหลังไม่รู้ แต่คุณต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นด้วย

นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า และ 2.สะท้อนถึงการจับกลุ่มกันของกลุ่มผลประโยชน์ซึ่งเป็นนายทุน เชื่อว่ามีกลุ่มสีเทารวมอยู่ด้วย ที่จับมือกับกลุ่มการทุนการเมืองที่เข้าไปอยู่รวมกันในรัฐบาลชุดนี้ เรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือบ่อนกาสิโนนั้น มีความพยายามในสภามาแล้วหลายครั้ง ตลอด 7 สมัยที่ตนอยู่ในสภามากว่า 30 ปี มีความพยายามผลักดันมาทุกครั้ง แต่ว่าอำนาจในสังคมไทยก็ผลักดันเรื่องของบ่อนกาสิโนให้มันตกไป เพราะไม่ว่าจะอ้างเรื่องรายได้ เรื่องการท่องเที่ยวหรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ มันฟังไม่ขึ้น เนื่องจากไทยเรามีรายได้หลักจากการท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะในปัจจุบัน ที่เรามีธรรมชาติที่มากมายอยู่แล้ว แต่ว่าดีลปีศาจนี้มันเป็นการชักนำทุนสีเทามาจับมือกับกลุ่มทุนการเมือง

“ปัจจุบัน เรื่องของกาสิโนจะเห็นเรื่องความพยายามของผลักดันของรัฐบาลชุดนี้อย่างน่าเกลียดที่สุด ตั้งแต่ความไม่สนใจเรื่องแผ่นดินไหวว่าใครจะเสียหายประชาชนจะตายเท่าไหร่ก็งุบงิบผลักกฎหมายออกมาจากคอแล้วพยายามจะผลักดันเข้าสภาในสภา ก็เข้าอีรอบเดิมเวลาพรรคเพื่อไทยเป็นเสียงข้างมาก ไม่ฟังเสียงฝ่ายค้าน ไม่ฟังเสียงประชาชน ท่าทีของประธานสภาก็เป็นท่าทีที่ถูกวิจารณ์ในทางลบเยอะมากว่า รับธงมาแล้วและพยายามปิดปากทุกฝ่ายหรือไม่ ที่สำคัญคือความโจ่งแจ้งของกลุ่มทุนการเมืองกับกลุ่มทุนสีเทาที่ผลักดันกันอยู่ มันทำให้เกิดแรงต้านคือแรงไฟของสังคมไทยก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น ซึ่งจะเราจะเห็นกลุ่มคนที่เป็นพลเมืองหลักของสังคมในประเทศ อย่างเช่นราชบัณฑิต อย่างเช่นกลุ่มแพทย์ กลุ่ม สว. กลุ่มประมุขของศาสนาฝ่ายต่างๆ ซึ่งต่อไปก็คงจะมีอีกหลายเครือข่าย ที่จะลุกขึ้นมาพูดเสียงดังมากขึ้นว่าทนไม่ได้แล้ว” นายสาทิตย์กล่าว

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันเครือข่ายของฝ่ายที่จับตามองเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวในวันนี้ มันไม่ใช่แค่เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) แต่มีในวงที่กว้างขวางมากขึ้น เพราะรับไม่ได้กับดีลปีศาจที่เป็นการจับมือกันระหว่างกลุ่มทุนการเมือง กับกลุ่มทุนสีเทา ก็เริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้น ส่วนตัวได้รับโทรศัพท์จากหลายหลายสายถามว่า จุดยืนทางการเมืองเป็นอย่างไร ซึ่งตนก็ตอบว่าจุดยืนการเมืองของตนมี 2 อย่าง คือ 1.ตนรับระบอบทักษิณที่ย่ำยีประเทศแบบนี้ไม่ได้ และ 2.ตนรับเรื่องของกฎหมายที่นำไปสู่การเอาประเทศประเทศไทยมาเซ้งแบ่งกันผลประโยชน์กันไม่ได้ ตนให้จุดยืนของตัวเองเรียบร้อยแล้ว แต่ตนมีตัวเองในการเคลื่อนไหวแล้วก็ต่อสู้ในเรื่องนี้ซึ่งคงจะเข้มข้นมากขึ้น แล้วเสียงต่อต้านเสียงไม่ยอมรับก็จะยิ่งมากขึ้น ถ้ารัฐบาลยังดื้อดึงดันแล้วก็พยายามจะใช้เสียงข้างมากในสภามากดหัวประชาชน มันจะเข้าสู่เหตุการณ์เดิมเหมือนยุคอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นอวสานของยุคทักษิณเหมือนที่ผ่านมา

ส่วนคนที่ประสานมา มีทั้งมีทั้งเครือข่ายเดิมมีทั้งกลุ่ม ใหม่ใหม่ที่มองหาคนที่เป็นแนวร่วมที่จะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อที่จะต่อต้าน เพราะกลุ่มนี้ก็มีข้อมูลชัดพอมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กับเรื่องของบ่อนกาสิโนมา จะตามมาด้วยการแก้ พ.ร.บ.การพนัน ที่จะทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เพราะมีข่าวเชิงลึกว่ากลุ่มผลประโยชน์กับกลุ่มการเมืองแบ่งผลประโยชน์กันแล้ว มันจะมีเรื่องของตัวกฎหมายซึ่งผ่านครม.มาแล้วอย่าเงียบเงียบก็คือกฎหมายการประกอบธุรกิจที่จะเป็นการไปลิดรอนอำนาจของธนาคารกลาง เครือข่ายเหล่านี้ประสานมาเพื่อแสวงหาแนวร่วมเพราะมีความรู้สึกว่าทนไม่ได้แล้ว บ้านเมืองแบบนี้เสียยับเยิน ชักชวนคนที่รักประเทศรักชาติมาร่วมกัน

นายสาทิตย์ กล่าวว่า หลังหลังจากนี้จะเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มทุนการเมืองที่มีกลุ่มผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังกับประชาชนที่เงียบเคยเงียบเสียง แต่ตอนนี้มีความรู้สึกว่ายิ่งเงียบยิ่งย่ามใจ กลุ่มทุนก็ยิ่งย่ำยี มันเป็นการเผชิญหน้ากันซึ่งพอเผชิญหน้ากันแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าท่าทีของฝ่ายกลุ่มทุนในรัฐบาลจะเอาอย่างไร และถ้าเกิดการเผชิญหน้า เราจะกลับไปสู่ยุคของการขัดแย้งทางการเมืองอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจุดจบของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลที่ขัดแย้งกับประชาชนด้วยเรื่องผลประโยชน์แบบนี้ มีจุดจบที่ไม่สวยสักเท่าไหร่ ซึ่งมันสะสมถึงจุดแล้ว ทุกคนบอกว่าไม่ไหวแล้ว ในทุกสังคมทุกประเทศ

ทุกรัฐบาลก็ต้องพยายามหารายได้เข้าสู่ประเทศของตัวเอง เพียงแต่ว่าการหารายได้มันจะต้องไม่นำมาซึ่งผลกระทบต่อสังคมที่อาจจะต้องใช้เงินภาษีประชาชนในการเยียวยา หลายประเทศก็จะเลือกวิธีการในการหารายได้ที่แตกต่าง ประเทศที่เขาคำนึงถึงการพัฒนาประเทศยั่งยืนก็พยายามจะหลีกเลี่ยงที่จะไม่หารายได้จากสิ่งที่สร้างผลกระทบต่อสังคมสูง เช่น กัญชาเสรีหรือแม้กระทั่งบางประเทศเคยคิดเรื่องจัดโซนยาเสพติดเสรีด้วยซ้ำไป หรือแม้กระทั่งเรื่องของการพนันการ เปิดมีบ่อน กาสิโน ทุกประเทศก็พยายามที่จะผลักดันการบริโภคของเหล่านี้ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าเปิดเสรีไปเงินรายได้มันมหาศาล แต่ผลกระทบทางลบคือสุขภาพ ปัญหาสังคม ปัญหาโจรผู้ร้าย อาชญากรรมที่ตามมา ซึ่งต้องใช้เงินภาษีไปแก้ไขเยียวยาอีกอย่างมหาศาล พูดง่ายๆคือไม่คุ้มกับสังคมนั้น และพอสร้างบ่อนกาสิโนแล้วใครไปเล่นคำตอบก็ไม่ชัด มีการแก้กฎหมายหลายครั้งในที่สุดก็แก้เหมือนกับเอื้อประโยชน์ให้คนในประเทศสามารถเข้าไปเล่นได้ ซึ่งอันนี้ก็ควบคุมควบคุมไม่ได้

“ที่ผ่านมาประเทศไทยการปลอดบ่อนการพนันไม่สำเร็จ เพราะผลกระทบด้านลบจากการศึกษากันมาโดยตลอดหลาย 10 ปี รู้ว่ามันมีผลกระทบต่อสังคมด้านลบอย่างมหาศาล พูดง่ายๆคือบ้านเมืองเราไม่พร้อมที่จะให้คนสามารถคิดได้เองว่าตัวเองไม่ควรไปเล่นการพนัน พอมีการรื้อฟื้นเรื่องบ่อนการพนันเสรี หรือบ่อนกาสิโนขึ้นมา จึงมีเสียงต้านประกอบกับข้อเท็จจริงในโลกนี้ ประเทศที่เปิดกาสิโนทั้งหลาย ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกประเทศ เพราะบรรดาผู้ที่เล่นก็จะมีจำกัดเพียงจำนวนหนึ่ง บางประเทศเปิดบ่อนกาสิโนด้วยความคาดหวังจะมีรายได้สูง แต่ก็ไม่คุ้มค่ากับที่ลงทุนไป บางประเทศก็ซบเซา ทำให้หลายหลายประเทศถอยในเรื่องนี้

คำถามคือสังคมไทยจำเป็นไหมที่จะต้องมีเงินรายได้จากบ่อนกาสิโนการอ้างว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เพราะมันจะเป็นไปได้ในกรณีที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติไม่เพียงพอหรือไม่ดีจนกระทั่งคนไม่มาเที่ยว ในเมืองไทยเราสามารถพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติได้อีกมากด้วยการทำให้มีความพร้อมมีโครงสร้างพื้นฐานที่เข้าไปและปัจจุบันเราก็ไม่ได้มีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเพราะแหล่งท่องเที่ยวเราไม่สวยงามหรือไม่ดี แม้กระทั่งกรุงเทพก็ยังเป็นเมืองด้านอาหารอันดับหนึ่งของโลก

ฉะนั้นเรื่องของการมาอ้างเรื่องรายได้เรื่องอื่นมันเป็นคำลวงของปีศาจที่พยายามโปรยคำหวานเพื่อให้สังคมเห็นด้วย แต่มันเจือไว้ด้วยยาพิษ คนทำบ่อนกาสิโน คือ กลุ่มทุน ที่มีกลุ่มคนในรัฐบาลจัดสรร ใครจะรู้ว่ามันไม่มีใต้โต๊ะ เพราะทุกอย่างในเวลานี้มันมีใต้โต๊ะกันไปหมด แล้วยิ่งกลุ่มทุนที่ต้องใช้เงินทุนในการหาเสียงเลือกตั้งมหาศาล ยิ่งต้องการเงิน” นายสาทิตย์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น