นครศรีธรรมราช - หนุ่มนคศรีธรรมราชขับขี่รถ จยย.ย้อนศร พุ่งประสานงารถหกล้อ ร่างกระเด็นเสียชีวิตคาที่ ตร.ตั้งปมสงสัยขับย้อนศรออกจากไหล่ทาง ทั้งที่จุดยูเทิร์นยังห่างจากจุดเกิดเหตุมากกว่า 2 กม.
วันนี้ (8 เม.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.พระพรหม แพทย์เวรชันสูตร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช หน่วยกู้ภัยมูลนิธิไต้เต็กเซี่ยงตึ๊ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบนถนนสายแยกเบญจม-แยกนาพรุ ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช หลังจากรับแจ้งอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์บรรทุกน้ำแข็งชนิด 6 ล้อห้องเย็น และรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
หลังจากเข้าตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อ นายทรงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สภาพศพอยู่ในพงหญ้าข้างทางมีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุด ศีรษะแตกผิดรูป ส่วนบนถนนเต็มไปด้วยเศษชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ตำรวจตรวจสอบพบว่าซากรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเสียบติดอยู่ที่หน้ารถบรรทุกหกล้อ จอดห่างจากจุดพบศพไปราว 100 เมตร มีผู้ขับขี่และผู้โดยสารกำลังรอพบเจ้าหน้าที่
หลังจากตำรวจรวบรวมข้อมูลจากที่เกิดเหตุได้ความว่า ขณะที่รถหกล้อบรรทุกน้ำแข็งมุ่งหน้าไปตามเส้นทางปกติไปส่งสินค้าต่างอำเภอ ส่วนผู้ตายขับมาจากบ้านมุ่งหน้าไปทำงานในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งควรจะอยู่มบนเส้นทางขามุ่งหน้าแยกเบญจม แต่ผู้ตายขับขี่ย้อนศรมาบนไหล่ทางด้านซ้ายด้วยความเร็วสูง แต่ได้พุ่งออกมาสวนช่องจราจรที่รถหกล้อกำลังขับมาเช่นกัน เป็นเหตุให้ชนประสานงาอย่างจังเสียงดังสนั่น นายทรงชัย คนขับรถ จยย.กระเด็นไปตกอยู่ในพงหญ้าข้างทางเสียชีวิตทันที ส่วนรถจักรยายนต์เสียบติดหน้ารถบรรทุก
นายมงคล (สงวนนามสกุล) ผู้ขับขี่รถบรรทุกหกล้อ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับมาตามเส้นทางปกติ แต่รถจักรยานยนต์คันนี้ได้ขับย้อนศรมา ซึ่งปกติการขับขี่ย้อนศรมักอยู่บนไหล่ทาง แต่ผู้เสียชีวิตได้พุ่งขึ้นมาในช่องจราจรคล้ายเจตนาพุ่งเข้าประสานงากับรถบรรทุกที่ตัวเองขับขี่ตรงมาตามเส้นทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนเข้าอย่างรุนแรง และหากดูเส้นทางจุดยูเทิร์นยังอยู่อีกไกลมาก จึงไม่รู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นเจตนาของคนตายหรือไม่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลตรวจสอบที่เกิดเหตุมีข้อสงสัยในการขับขี่ของผู้ตาย ทั้งเส้นทางมาจากบ้าน จุดยูเทิร์นที่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากกว่า 2 กม. และยังไม่รู้เจตนาการย้อนศร หรือจุดหมายของผู้ตายแท้จริงจะไปทำงานหรือไม่ เนื่องจากจุดเกิดเหตุยังไม่สมเหตุสมผลในเจตนาการขับขี่ย้อนศรี ซึ่งจะได้สืบสวนข้อมูลข้อเท็จจริงต่อไป
