ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจ นำหมายศาลจังหวัดภูเก็ต จับทนายดัง กลางสำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต หลังถูกกล่าวหาร่วมกันเข้าไปบุกรุกทรัพย์สินของผู้อื่น
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ ( 4 เม.ย.68) บริเวณลานจอดรถสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ถ.ดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.วรัษฐา วุฑฒิรักษ์ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทัพไทย ลีลานนท์ สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำกำลังชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เข้าจับกุมนายอนันตรักษ์ เพ็ชรหิน อายุ 40 ปี บ้านอยู่หมู่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 266/2568 ลงวันที่ 3 เม.ย.68 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐานร่วมกันเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข โดยขู่ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายควบคุมไปสอบสวนปากคำที่ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต
โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ออกสืบสวนและติดตามตัว นายอนันตรักษ์ ทนายความ ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต อยู่ที่บริเวณลานจอดรถสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ถ.ดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงไปตรวจสอบ จากการสอบถามทราบว่าบุคคลดังกล่าว รับว่าตนเองคือ นายอนันตรักษ์ เพ็ชรหิน เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบบัตรประชาชน พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงได้แสดงหมายจับให้ดูและได้อ่านกับทั้งให้ผู้ต้องหาอ่านด้วยตนเอง จนเป็นที่เข้าใจแล้ว
ผู้ต้องหาให้การรับว่าเป็นตนบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมหรือเข้ามอบตัวตามหมายจับข้างต้นมาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งให้ทราบว่าผู้ต้องหาต้องถูกจับกุมตามหมายจับในความผิดดังกล่าว พร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตองต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการแจ้งความ กรณี มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหลายคน รวมทั้งทนายความคนดังกล่าว เข้าบุกรุกใช้กำลังประทุษร้าย หรือข่มขู่ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ประจำโรงแรม ซึ่งทำงานอยู่ภายในเขตพื้นที่ซึ่งกรรมสิทธิ์ ผู้ร้อง ตามที่ศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุด ให้ผู้ร้อง คือเจ้าของปัจจุบัน ชนะคดีและขับไล่กลุ่มบุคคลที่เข้ามาบุกรุกที่ดินและบริวารออกจากที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พร้อมส่งมอบคืนผู้ร้องในสภาพเรียบร้อย และห้ามเข้าไป แต่ปรากฏว่า กลุ่มผู้บุกรุก กลับเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลฎีกา ทนายความของผู้ร้องได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธธรป่าตองเข้าระงับเหตุ แต่กลับถูกใช้วาจาข่มขู่ เจ้าหน้าที่ และมีการแจ้งความดำเนินคดี และ ศาลมีหมายจับดังกล่าว