ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – “สว.ปริญญา” ลงพื้นที่ตรวจลานรับซื้อน้ำมันเถื่อนหลังถูกเจ้าหน้าที่บุกทลาย ยึดน้ำมันหนีภาษีได้กว่า 20,000 ลิตร ยืนยันพร้อมเปิดหน้าสู้ผู้มีอิทธิพลคาดอยู่ในสภาเดียวกัน
วันนี้ (3 เม.ย.) ความคืบหน้ากรณี นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา ส่งคณะทำงานลงพื้นที่จังหวัดสงขลา หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบค้าขายน้ำมันหนีภาษี หรือน้ำมันเถื่อน ในพื้นที่บ้านทุ่งมะข้าม ม.1 ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. คลองหอยโข่ง สรรพสามิตจังหวัดสงขลา สืบสวน สภ.คลองหอยโข่ง สืบสวนจังหวัดสงขลา สืบสวนภาค เข้าตรวจสอบลานขายน้ำมันเถื่อน ยึดน้ำมันหนีภาษี รถยนต์ทั้งหมดประมาณ 16 คัน มีรถบรรทุกเทรลเลอร์ จำนวน 4 คัน รถสิบล้อ จำนวน 3 คัน รถกระบะตู้ทึบ จำนวน 4 คัน รถกระบะจำนวน 5 คัน พร้อมควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 เม.ย.68 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบลายนิ้วมือ และเก็บ DNA จากวัตถุพยาน ภายในรถทุกคัน รวมทั้งบริเวณมือจับเปิดปิดประตูรถ ขณะที่เจ้าหน้าที่พลังงานจังหวัดสงขลาและสรรพสามิตจังหวัดสงขลา ได้เข้าเก็บตัวอย่างน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน ที่พบอยู่บริเวณลานขายน้ำมันเถื่อน เพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพและที่มาของน้ำมัน ก่อนนำผลการตรวจสอบไปประกอบสำนวนการดำเนินคดีได้ว่าน้ำมันที่พบในจุดดังกล่าวเป็นน้ำมันหนีภาษีหรือไม่
ขณะที่จากการตรวจสอบรถกระบะตู้ทึบที่ภายในมีการติดตั้งถังขนาดใหญ่บรรจุน้ำมันได้ประมาณ 3,000 ลิตร ก็พบว่ามีการดัดแปลงสภาพรถ โดยช่วงล่างมีการติดตั้งเสริมแหนบเพิ่มเติมเพื่อให้รับน้ำหนักได้มากขึ้น ซึ่งรถกระบะตู้ทึบจะเป็นรถที่ลำเลียงน้ำมันหนีภาษีไปส่งในพื้นที่ตอนกลางของภาคใต้ ส่วนรถเทรลเลอร์และรถสิบล้อเป็นรถที่เข้ามาใช้บริการเติมน้ำมัน
นอกจากนี้บริเวณลานขายน้ำมันเถื่อนที่มีการกางเต็นท์ขนาดใหญ่ ภายในเต็นท์ก็พบถังบรรจุน้ำมันขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 12 ใบ และถังกลมบรรจุน้ำมันขนาดถังละ 200 ลิตร จำนวน 18 ใบ มีถังดำใส่น้ำมันขนาดใหญ่ 1 ใบ บรรจุได้จำนวน 20,000 ลิตร อยู่ในเต็นท์ มีน้ำมันเบนซินอยู่ประมาณ 9,000 ลิตร และปั๊มที่ใช้สูบน้ำมันอีก 10 ตัว เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบ คาดว่ามีน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลรวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ลิตร
ขณะที่อีกจุดห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร ตรวจสอบพบถังที่ใช้บรรจุน้ำมันขนาด 1,000 ลิตร และ 200 ลิตร มากกว่า 10 ใบ และจุดนี้ยังมีการให้บริการเติมน้ำมันจากหัวจ่ายน้ำมันจำนวน 1 หัวจ่าย เหมือนกับปั๊มน้ำมันทั่วไปด้วย แต่ที่น่าสังเกตพบรถขนน้ำมันที่สามารถบรรจุน้ำมันได้จำนวน 18,000 ลิตร และเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่งจอดอยู่ 1 คัน โดยรถคันนี้หมวดทะเบียนป้ายสุราษฎร์ธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในถังเก็บน้ำมันแล้ว พบว่ามีน้ำมันมากกว่า 14,000 ลิตร โดยรถคันนี้ได้ขับเข้ามารับน้ำมันจากจุดขายดังกล่าว แต่ยังไม่ทันได้ขับออกไปก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมก่อน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเพื่อขยายผลว่ารถคันนี้จะนำน้ำมันไปส่งที่ใด
ส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะปริมาณน้ำมันดีเซลและเบนซินที่ตรวจยึดได้ว่ามีจำนวนกี่ลิตร รวมทั้งรอผลการตรวจสอบจากพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นน้ำมันที่มีการนำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีหรือเป็นน้ำมันเถื่อนหรือไม่ ก่อนที่จะดำเนินคดีความผิด ตามพระราชบัญญัติศุลกากรและพระราชบัญญัติสรรพสามิต ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ
ต่อมา นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่ตรวจสอบลานขายน้ำมันเถื่อนในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนที่ตนจะส่งเจ้าหน้าที่และคณะทำงานเข้าพื้นที่มาตรวจสอบนั้นก็ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่า จุดนี้มีการลักลอบขายน้ำมันเถื่อนกันอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งถือว่าอันตรายอย่างมาก เนื่องจากน้ำมันเป็นวัตถุไวไฟ และหากมีการกระทำที่ผิดพลาดหรือทำให้เกิดประกายไฟก็จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้ เนื่องจากมีการใช้เครื่องปั๊มสูบน้ำมัน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นก็ยืนยันได้ว่าเป็นน้ำมันหนีภาษีที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีราคาถูกกว่าประเทศไทย แต่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จำนวนมาก โดยเฉพาะจุดแรกที่คาดว่าจะมีน้ำมัน ประมาณ 20,000 ลิตร แต่จากข้อมูลคาดว่ามีน้ำมันมากกว่า 50,000 ลิตร
“โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่แน่นอน และอาจจะอยู่ในสภาเดียวกับตนก็ได้ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีใครที่เข้ามาขอเคลียร์กับตน ซึ่งตนก็ต้องตรวจสอบเนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อน” นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา กล่าว