xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.ภูเก็ต เรียกร้องให้ตรวจสอบ อาคารศูนย์บริการลูกค้า กฟภ. จ.ภูเก็ต หลังพบบริษัทร่วมสร้างเป็นบริษัทเดียวกับที่สร้างตึก สตง.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ส.ส.ภูเก็ต เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ อาคารศูนย์บริการลูกค้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ภูเก็ต หลังพบบริษัท รับเหมาก่อสร้าง มีบริษัทที่ก่อสร้างอาคารสำนักงาน สตง. ของจีน ร่วมก่อสร้างด้วย งบ 210 ล้าน


จากกรณีเกิดแผ่นดินไหว ที่ประเทศพม่า และ ส่งผลกระทบมาถึงกรุงเทพมหานคร จนทำให้ตึกอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน 30 ชั้น วงเงินกว่า 2,000 ล้าน ถล่มลงมา ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า อาคารดังกล่าวส่อสร้างโดย กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด)

อย่างไรก็ตามในส่วนของจังหวัดภูเก็ต นายฉลิมพงษ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดภูเก็ต พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบ โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการลูกค้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่2 ตำบลรัษฎา จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังมีการระบุ ว่า การก่อสร้างอาคารดังกล่าว โดย กิจการร่วมค้าAKCระหว่าง บริษัทอัครกร ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ไชน่า เรลเวย นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด มีบริษัท ซี่งในส่วนของ บริษัท ไชน่า เรลเวย นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัดที่รับผิดชอบการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหลังใหม่
ร่วมก่อสร้างด้วย


สำหรับโครงการ อาคารศูนย์บริการลูกค้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งใช้งบประมาณ 210 ล้านบาท และ เริ่มสัญญาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงขณะนี้การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้เกิดข้อกังขาในเรื่องมาตรฐานของการดำเนินงาน

นายเฉลิมพงษ์ ระบุว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบควรเร่งเข้าตรวจสอบโครงการดังกล่าว ว่า การก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การตรวจสอบมาตรฐานวัสดุที่ใช้ รวมถึงการดำเนินการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบที่ยื่นขอ เป็นสิ่งสำคัญที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชนและผู้ใช้งานในอนาคต


เพราะ ประเด็นเรื่อง ความแข็งแรงของอาคาร เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ในประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้เกิดข้อกังวลว่าอาคารที่กำลังก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆ อาจได้รับผลกระทบด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น