พัทลุง - ตำรวจพัทลุงแจ้งพ่อแม่ชาว อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ว่าลูกถูกรถชนเสียชีวิต ให้มารับศพที่ รพ.พัทลุง พ่อแม่มาเจอใบหน้ายุบ ไม่มีเค้าเดิม จึงจำไมไ่ด้ รับศพทำพิธีทางศาสนา 3 วัน เพิ่งรู้ว่าคนตายไม่ใช่ลูก หลังแม่ผู้บาดเจ็บอีกรายเอะใจ กรุ๊ปเลือดไม่ตรง ซ้ำมีรอยเจาะหูทั้งที่ไม่เคยทำ
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ จ.พัทลุง เกิดเหตุเข้าใจผิดขึ้น เมื่อพ่อแม่มารับศพไปทำพิธีทางศาสนาก่อนจะมาทราบว่า คนตายไม่ใช่ลูกของตัวเอง โดยเหตุมาจากอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 23 มี.ค. รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ซึ่งจอดไว้ไหล่ทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน คือนายพงศภัค ธานีรัตน์ อายุ 17 ปี และนายธนกฤต ชูแก้ว อายุ 17 ปี เช่นกัน รถ ร.พ.ควนขนุนและรถกู้ชีพชะมวง นำส่ง ร.พ.ควนขนุน ซึ่งแพทย์ได้รีบส่งต่อไปยัง ร.พ.พัทลุง และเสียชีวิต 1 ราย โดยมีการระบุว่า ผู้ที่เสียชีวิตคือ นายพงศภัค ธานีรัตน์
เจ้าหน้าที่ตำรวจและพยาบาลจึงได้โทรฯ แจ้งนายวัชรินทร์ ธานีรัตน์ และนางอมราวดี เดชขาว พ่อและแม่ของนายพงศภัค ธานีรัตน์ ว่า ลูกคุณประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ขอให้เดินทางมายัง ร.พ.พัทลุง โดยผู้เป็นพ่อและแม่ได้ถามพยาบาลว่า ลูกเจ็บกี่คน พยาบบาลบอกว่า เจ็บสาหัส 1 และเสียชีวิต 1 โดยแม่ยังถามต่อว่า คนที่เสียนั้น อ้วนหรือผอม พยาบาลบอกว่าผอม ก่อนเดินทางมารับศพลูกชาย ที่ ร.พ.พัทลุง
นางอมราวดี ผู้เป็นแม่ เล่าว่า หลังจากรับแจ้งจากตำรวจว่า ลูกชายเสีย ได้มารับศพลูกชายด้วยความอาลัย มาถึง พยาบาลบอกว่า ลูกคุณอ้วนหรือผอม บอกว่าผอม ก่อนสามีเดินเข้าไปดูศพแต่จำหน้าไม่ได้เนื่องจากที่ลำคอมีการพันแผลเอาไว้ และใบหน้าก็ยุบหายไป ไม่มีเค้าโครงเดิม จึงจำไม่ได้ แต่เอะใจ หลังจากพยาบาลบอกว่า นั่นเสื้อผ้าลูกคุณ ตนบอกว่าไม่ใช่ และตำรวจก็เข้ามา ตนก็บอกว่าเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไม่ใช่ของลูกชายฉัน แต่ตำรวจไม่ได้ถามอะไร ก่อนนำศพลูกชายกลับบ้านไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา ที่บ้านเกิด อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 23 มีนาคม 68
จนกระทั่งเ มื่อวานนี้ พี่นก แม่ของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุอีกราย ไปในงานศพลูกชายของนางอมราวดี แล้วเห็นเขาลงประชาสัมพันธ์ขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ป เอ จึงสงสัย เพราะเป็นกรุ๊ปเลือดของลูกชาย และในใบชันสูตรศพที่รับมาจัดงานนั้นเป็นเลือดกรุ๊ปบี และสงสัยว่า เฝ้าอยู่ที่ รพ. 3 วัน เห็นลูกชายไม่ได้เจาะใบหูเลยสงสัย เพราะลูกชายตนเอง เจาะใบหู ก่อนวันนี้ทั้งสองได้เดินทางมายัง ร.พ.พัทลุง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้น
จากการสอบถามในเบื้องต้น ที่มีทั้งตำรวจ และพยาบาล แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบ โดยขณะนั้นผู้สื่อข่าวได้อยู่ด้วย ก่อนพยาบาลบอกมีอะไรให้ไปคุยกันข้างในและไม่ต้องให้ข้อมูลผู้สื่อข่าว ร.พ.จะเสียหาย ปรากฏว่า นายพงศภัค ธานีรัตน์ ยังมีชีวิตอยู่
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 250 ม.2 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่จักงานศพนายพงศภัค ธานีรัตน์ อายุ 17 ปี โดยมีการตั้งศพบำเพ็ญพิธีทางศาสนามาแล้ว 3 คืน มีเครือญาติพี่น้องมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่ในวันนี้ หลังทราบข่าวว่านายพงศภัค ยังมีชัวิตอยู่ ทำให้ทุกคนที่เศร้ามา 3 วัน ต่างก็รู้สึกโล่งใจขึ้น