xs
xsm
sm
md
lg

“อิฐต่อก่อบุญ” จากสุสานไก่ปูนปั้น-เศษดินปะทัด ของเหลือวัสดุแก้บนไอ้ไข่วัดเจดีย์สู่อิฐกำแพงวัด-โรงเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ที่วัดเจดีย์ หรือที่รู้จักในชื่อ “วัดไอ้ไข่” ตำบลฉลอง อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช บริเวณสุสานไก่ของวัด สถานที่เก็บไก่ปูนปั้น ที่มีผู้ศรัทธาบนบานศาลกล่าวกับวิญญาณไอ้ไข่ประสบความสำเร็จในการบนบานแล้วนำมาแก้บนกับไอ้ไข่ ปัจจุบันมีพื้นที่เก็บไก่ปูนปั้นเหล่านี้ร่วมร้อยไร่แล้ว กลายเป็นวัสดุที่แก้ปัญหาไม่ตก ต้องปล่อยให้วัชพืชขึ้นปกคลุมไปตามกาลเวลา เช่นเดียวกับเศษประทัดที่ถูกนำมาแก้บนถูกจุดตามขั้นตอนแล้ว แต้สิ่งที่เหลือทิ้งไว้คือเศษดินประสิว เศษกระดาษประทัดที่มีปริมาณมหาศาลถูกกองเป็นเนินภูเขากลายเป็นมลพิษกับสิ่งแวดล้อม

“อิฐต่อก่อบุญ” คือชื่อโครงการย่อยในชุดโครงการวิจัยการจัดการทุนทางวัฒนธรรมฐานความเชื่อโดยรอบสันทรายโบราณเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช ถูกนำมาสร้างสรรค์วิธีการนำเอาวัสดุที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก่อให้เกิดประโยชน์ได้อย่างถาวร โดยความร่วมมือจากคณะกรรมการวัดและคณะสงฆ์วัดเจดีย์ ไก่ปูนปั้น และเศษดินประสิวประทัดที่ผ่านการจุดระเบิดเรียบร้อยแล้วถูกนำมาเป็นวัสดุในการผลิตอิฐ โดยนักวิจัยและชุมชน และมีความหวังในการต่อยอดขยายสู่หน่วยผลิตที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมในชุมชนสร้างเศรษฐกิจชุมชนในเร็วๆ นี้


รองศาสตราจารย์ปรัชญา กฤษณะพันธ์ อาจารย์ประจำสำนักวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ สาขาการออกแบบภายใน ม.วลัยลักษณ์ การวิจัยอิฐต่อก่อบุญ จะต้องทำให้ชุมชนเห็นและนำเอาสิ่งที่ทำได้จริง ก่อให้เกิดเศรษฐกิจในชุมชนจากวัสดุเหล่านี้ อิฐที่ได้มีความเชื่อความศรัทธาผสมผสานอยู่ในนั้น อิฐที่ได้จึงหมายถึงต่อก่อบุญได้เป็นอย่างดี เช่น กำแพงวัด โรงเรียน โรงพยาบาล สาธารณประโยชน์ต่างๆ ตามความเชื่อที่มีว่าสิ่งของที่เหลือจากการแก้บนล้วนเป็นของไอ้ไข่ และยินดีในการนำไปสร้างบุญสร้างประโยชน์ต่างๆ

“ขั้นตอนคือการนำเอาไก่ปูนปั้นมาคัดแยก รวมทั้งเศษดินประสิวประทัดที่ผ่านการจุดแล้วและได้รับการตรวจสอบชัดแล้วว่าไม่มีอันตราย นำมาบดละเอียดผสมกับปูนซีเมนต์ตามสูตรสัดส่วนที่เหมาะสม จากนั้นนำเข้าสู่พิมพ์แล้วอัดด้วยระบบจากนั้นนำเอาไปผึ่งแห้งสมบุรณ์พร้อมใช้งาน หากมีหน่วยการผลิตขยายกำลังได้มากขึ้น สิ่งที่ได้มาคืออุตสาหกรรมในชุมชนสามารถสร้างรายได้ให้เกิดในชุมชน ลดต้นทุนในการก่อสร้างวัด โรงเรียน โรงพยาบาล หรือสิ่งปลูกสร้างสาธารณะอื่นๆ” นักวิชาการรายนี้กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น