พังงา - ระบุ 1 ใน 4 ผู้ต้องหาลักลอบขนอาวุธสงคราม พัวพันกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นชายแดนภาคใต้ ด้านผู้ต้องหาให้การรับ เอาปืนมาจากหาดใหญ่ โดยได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 70,000 บาท เมื่อถึง จ.พังงา ให้วางตามนัดหมาย
จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองพังงา ตั้งด่านร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่วังหม้อแกง จ.พังงา และสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมอาวุธปืนสงคราม จำนวน 4 กระบอก พร้อมกระสุนปืนอีกจำนวนมาก และรถจำนวน 2 คัน ล่าสุด พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.พังงา รอง ผบก.สส.บก.สส.ภ.8 ผกก.สืบสวน ภ.จว.พังงา ผกก.สภ.เมืองพังงา ร่วมกันแถลงข่าวถึงการจับกุมดังกล่าว
โดยผู้บังคับการตำรวจภุธรจังหวัดพังงา กล่าวว่า ทาง สภ.เมืองพังงา ได้ตั้งจุดตรวจที่สามแยกวังหม้อแกง ริมถนนสายพังงา-ทับปุด ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 04.00 น. เพื่อป้องปรามการกระทำผิดและตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ได้พบรถยนต์กระบะตอนตรึ่ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บน 6463 ปัตตานี มีนายอับดุลรอแม อาแวโด อายุ 49 ปี ที่อยู่ 146/4 ม.5 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นคนขับ และมีนายไฟซ๊อล แวมะลี อายุ 28 ปี ที่อยู่ 117/7 ม.1 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา นั่งข้างคนขับ และมีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน งน 870 สงขลา พบนายซูลอัฟฟัล สือแม อายุ 28 ปี ที่อยู่ 91/1 ม.2 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นคนขับ และมีนายเสาวรุส มามะ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 15/1 ม.2 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นั่งข้างคนขับ ได้ขับโดยลักษณะน่าสงสัย
โดยรถยนต์กระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง ส่วนผู้ขับและผู้โดยสารรถยนต์ ฟอร์จูนเนอร์ มีลักษณะท่าทางน่าสงสัย จึงเรียกให้หยุดตรวจและขอทำการตรวจสอบ โดยขณะทำการตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 2 คัน คนขับและผู้โดยสารมีท่าทีไม่ยินยอมให้ทำการตรวจค้น จึงเชิญให้ลงจากรถยนต์ทั้ง 2 คัน และขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบถุงกระสอบปุ๋ย สีขาว จำนวน 1 ใบ ด้านในบรรจุอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจม AK-47 ความยาวลำกล้อง 369 มม. จำนวน 4 กระบอก เครื่องกระสุน AK-47 ขนาด 7.62 มม. จำนวน 9 นัด บรรจุในซองกระสุน รวมจำนวน 54 นัด พานท้ายปืน จำนวน 1 อัน ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังของรถยนต์ ฟอร์จูนเนอร์
จากการสอบถามพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 ให้การว่าเดินทางมาด้วยกัน โดยรถยนต์กระบะจะเป็นคันขับนำ ส่วนรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ขับตามเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมและการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากจับกุม จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ความผิดฐาน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็น
และหลังจากนี้จะส่งอาวุธปืนไปตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 เนื่องจากอาวุธดังกล่าวนั้นนำมาจากพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งทางศูนย์จะมีข้อมูลทั้งหมดตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วว่าอาวุธดังกล่าวเคยใช้ก่อเหตุในพื้นชายแดนภาคใต้หรือไม่ และจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่ารับปืนมาจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 70,000 บาท ให้นำมาส่งไว้ตามพิกัดที่ทางผู้ว่าจ้างจะแจ้งจุดวางอาวุธเมื่อถึงจังหวัดพังงา แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับก่อน จะได้รับพิกัดให้วางของ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจภาค 8 และภาค 9 ได้มีการสอบสวนเชิงลึกว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบชายแดนภาคใต้หรือไม่ หรือก่ออาชญากรรมอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายงานเพิ่มว่า 1 ใน 4 ผู้ต้องหามีประวัติอยู่ในกลุ่มก่อความไม่สงบชายแดนภายใต้ ส่วนเป้าหมายคาดว่าพื้นที่เป้าหมายน่าจะอยู่ในพื้นที่พังงา-ภูเก็ต