xs
xsm
sm
md
lg

วัยรุ่นรามันพ้นโทษจากสถานพินิจไปทำงานภูเก็ต กลับมาบ้านเจออริเก่าพยายามเข้าไปทักทายกลับถูกยิงเสียชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันรุ่น 18 ปีชาวอำเภอรามัน พ้นโทษจากสถานพินิจไปทำงานที่ภูเก็ต กลับมาบ้านหวังฉลองเทศกาลฮารีรายอ เจอคู่อริเก่า พยายามเข้าไปทักทาย กลับชักปืนยิงบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เพื่อนอีกคนบาดเจ็บด้วย

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.68 เวลาประมาณ 18.30 น. สภ.รามัน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต ที่ถนนกอตอตือร๊ะ-บ้านเจาะลีมัส ม.2 ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา และได้นำศพมาที่ รพ.รามัน พนักงานสอบสวนจึงได้เดินทางไปทำการตรวจสอบ

เมื่อไปถึงทราบว่าผู้ตายคือนายสุไลมาน เจะด๊ะ อายุ 18 ปี อยู่ ต.กอตอตือระ สาเหตุเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุ ผู้ตายกับเพื่อนได้ขับรถเล่นมาที่เกิดเหตุ และได้เจอกับคู่อริ ชื่อนายปัง ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง ผู้ตายได้เดินเข้าไปพยายามทักทาย แต่นายปังได้ชักอาวุธปืนพกสั้นออกมาและได้ยิงไปที่ใบหน้าของผู้ตาย จำนวน 1 นัด แล้วหลบหนีไป ทางเพื่อนของผู้ตายจึงได้พาผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลแต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทางพนักงานสอบสวนพบว่า ที่ รพ. ยังมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอีก 1 ราย คือ นายรอสลี เตาะแต๊ะ อายุ 17 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่แขน ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า ผู้ถูกยิงได้บังเอิญขับรถ จยย.ผ่านมาในที่เกิดเหตุ จึงได้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ

ต่อมา เวลา 10.00 น. วันนี้ (22 มี.ค.) พ.ต.อ.อดุลย์ เง๊าะ ผกก.สภ.รามัน จ.ยะลา ได้นำกำลังตำรวจ สภ.รามัน ทหาร ปกครองในพื้นที่ ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.ยะลา ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายสุไลมาน เจะด๊ะ อายุ 18 ปี จนเสียชีวิต และนายรอสลี เตาะแต๊ะ อายุ 17 ปี ซึ่งขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนกอตอตือร๊ะ-เจาะลีมัส หมู่ที่ 2 ต.กอตอตือร๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อค่ำวันที่ 21 มี.ค.68 ที่ผ่านมา

โดยจุดเกิดเหตุอยู่บนถนนสายดังกล่าว พบรอยเลือดไหลเป็นทาง พร้อมร่องรอยรถจักรยานยนต์ จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 ในการก่อเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.อดุลย์ เง๊าะ ผกก.สภ.รามัน จ.ยะลา เผยว่า จากที่ได้รับรายงานมาเมื่อวาน มีเหตุวัยรุ่นยิงกัน ตอนนี้พอทราบว่าเป็นคู่อริกันตั้งแต่อดีต ที่ผ่านมาทางผู้นำได้เรียกมาเคลียร์และมาตกลงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้จากที่พนักงานสอบสวนได้ไปสอบถามเพื่อนของผู้เสียชีวิต พอจะทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้เรียกเพื่อนกลุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนฝ่ายสืบสวนได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อที่จะติดตามคนร้ายต่อไป

สำหรับในอดีตทั้งสองได้เคยทะเลาะกัน หลังจากคนตายออกจากสถานพินิจ ได้ไปทำงานที่ภูเก็ต เมื่อวานช่วงเช้าเพิ่งกลับมาเกิดเหตุตอนหัวค่ำ โดยมารวมกลุ่มกันมาคุยเพื่อรอเวลาเปิดบวช

ทางด้าน น.ส.สุรานี เจะด๊ะ อายุ 31 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากที่น้องชายออกจากสถานพินิจ ได้ปรับปรุงนิสัยตัวเอง ทำตัวดีขึ้น บอกว่าออกจากสถานพินิจแล้วจะออกไปหางานทำ เพื่อที่จะช่วยแม่ เพราะแม่อยู่บ้านคนเดียว สงสารแม่ เวลาทางสถานพินิจจะเรียกประชุมอะไรแม่ไปลำบาก เพราะแม่อยู่คนเดียว พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แยกทางกันอยู่ แม่ยังมีน้องสาวอีก 2 คน ที่บ้าน

“โทษของน้องประมาณปีกว่า น้องอยู่ได้ไม่ถึงปี เพราะลดโทษอีก และได้ปรับตัว ปรับนิสัยทำตัวดีขึ้น เลยได้ออกเร็ว หลังจากที่ออกจากสถานพินิจประมาณเดือน 11 ก็กลับมา ทางตนได้รับน้องไปทำงานที่ภูเก็ต และทำงานจนถึงวันที่เกิดเหตุการณ์ เมื่อวานน้องจะกลับมารายอกับแม่ที่บ้าน คุยกับแม่เรียบร้อยแล้วว่าขออนุญาตกลับมารายอที่บ้าน แม่เลยบอกว่ากลับมาตอน 10 วันสุดท้ายก็ได้ พอวันที่ 20 จองตั๋วเรียบร้อย พอมาถึง 8 โมงเช้า เมื่อวานก็ไปรับ แกกลับไปอยู่ที่บ้าน ได้อาบน้ำแต่งตัว และนอน แกมีนกอยู่ 2 ตัว กับตุ๊กตามา 2 ตัว ตุ๊กตานั้นเอากลับมาให้น้องและนกเป็นของแกที่แกซื้อเอง

ส่วนการมาชักชวนของเพื่อนหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะว่าน้องอยู่บ้าน ได้รู้เหตุการณ์ตอนจะเปิดบวชว่าน้องโดนยิง อยู่ห้องไอซียู ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนั้นเป็นยังไง และหลังจากนั้นกลับมาถึงเมื่อเช้า ตี 4 ของวันนี้ แต่แม่ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ ยังเสียใจ ทำใจไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อคืน เพราะความหวังอยู่กับน้องชายคนเดียว มีลูกชายคนเดียว อยากให้ทางเจ้าหน้าที่จับคนร้ายให้ได้ ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี กลัวจะมีเหตุการณ์แบบนี้กับคนอื่นอีก ขอเคสนี้เป็นเคสสุดท้าย ถามว่าเราเสียใจไหม น้องชายคนเดียวเราไม่ใช่อยากให้เดือดร้อน ไม่อยากให้ลำบาก เรายอมลำบากแทนมาทุกอย่าง เพื่อให้น้องจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ถ้าเกิดสถานการณ์เป็นแบบนี้แล้ว โชคของน้องเป็นแบบนี้แล้วเราก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับไป ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น