ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บพข. หนุน ม.นเรศวร วิจัยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีข้อจำกัดทางกายภาพได้ดียิ่งขึ้น ระบุเป็นตลาดที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวพร้อมเดินทาง
ตามที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนในปีงบประมาณ 2566-2568 จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สก.สว.) เพื่อทำโครงการวิจัย “การพัฒนาการตลาดของเครือข่ายการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล กลุ่มประเทศใช้ภาษาเยอรมัน” ซึ่งมีเป้าประสงค์ในการเพิ่มขีดความสามารถ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่มีประเทศไทยเป็นจุดหมายของการเดินทาง และสร้างการมาเยือนซ้ำของนักท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการด้านการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมบางแห่งของประเทศไทย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีข้อจำกัดทางกายภาพได้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งปัจจุบัน สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะหลายแห่งยังไม่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับผู้ใช้รถเข็น และการปรับปรุงให้สามารถเข้าถึงได้ต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก เป้าหมายหลักของโครงการเราคือการประเมินแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ค้นหาจุดที่ต้องปรับปรุงด้านการเข้าถึงและการบริการ พร้อมทั้งส่งเสริมเส้นทางและโปรแกรมการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามแนวคิด "การท่องเที่ยวเพื่อทุกคน"
โดยเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรัญญา พหลเทพ เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรวุฒิ บุญยศักดิ์เสรี และ ทีมงาน ร่วมกับบริษัท เจทีเอส (ภูเก็ต) จำกัด โดยนายสุวัฒน์ พลอยช่าง นำนักท่องเที่ยว ซึ่งมีข้อจำจัดทางด้านร่างกายทั้งชาวไทยและต่างชาติ จำนวน 4 คน พร้อมผู้ติดตาม สัมผัสกับบรรยากาศริมอ่าวสะปำ อ.เมืองภูเก็ต พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านอาหาร The Cockle Farm อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อสร้างความประทับใจ และร่วมทดสอบความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนการให้บริการของร้านอาหาร ที่พัก ผู้ประกอบการเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่มีข้อจำกัดทางด้านร่างกายในอนาคต ซึ่งได้เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวเพื่อร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงการดำน้ำ ในพื้นที่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต
โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรัญญา พหลเทพ เป็นหัวหน้าโครงการกล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ตลาดเยอรมันเป็นตลาดนักท่องเที่ยวใหญ่ของประเทศไทยมาตั้งแต่อดีต และมีจำนวนมากที่มาเที่ยวซ้ำหลายรอบ หรือเรียกว่า มาแล้วมาอีก ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์เป้าประสงค์ของแหล่งทุน ทางโครงการวิจัยจึงมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพการตลาดท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลของประเทศไทย และเป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันด้วยสังคมโลกเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ อีกทั้งมีสถิตินักท่องเที่ยวกลุ่มประเภทที่มีข้อจำกัดทางด้านร่างกายจำนวนมากต้องการท่องเที่ยวทั่วโลกมากขึ้น
เช่น คนนั่งวีลแชร์ คนพิการ เป็นต้น ดังนั้นโครงการจึงมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลตลาดยุโรป กลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน ร่วมกับผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ โดยนำผลิตภัณฑ์ที่ถูกยกระดับ รวมถึงการบริการเส้นทางท่องเที่ยว โปรแกรมท่องเที่ยวเข้าถึงได้ในเชิงพาณิชย์เสนอขายและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Accessible Tourism Thailand) โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและพังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวตลาดนี้นิยมมาเป็นทุนเดิม
“จากการศึกษาด้านศักยภาพเชิงพื้นที่ ปัจจุบัน สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะหลายแห่งยังไม่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับผู้ใช้รถเข็น และการปรับปรุงให้สามารถเข้าถึงได้ต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก เป้าหมายหลักของโครงการ คือ การประเมินแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ค้นหาจุดที่ต้องปรับปรุงด้านการเข้าถึงและการบริการ พร้อมทั้งส่งเสริมเส้นทางและโปรแกรมการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามแนวคิด การท่องเที่ยวเพื่อทุกคน”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรัญญา กล่าวอีกว่า จากการได้เข้าร่วมและนำเสนอโปรแกรมการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลของประเทศไทยในงาน Rehacare 2024 ที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับการโชว์นวัตกรรมสำหรับคนที่มีข้อจำกัดทางด้านร่างกาย อีกทั้งยังมีการออกบูทการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลในหลายประเทศ ทำให้โครงการวิจัยได้พบตลาดและเครือข่ายผู้ประกอบการด้านธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลในประเทศแถบเยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เดนมาร์ก เป็นต้น
ในส่วนกิจกรรมไฮไลต์ของโครงการ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลสู่นักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายในต่างประเทศ คือ หลักสูตรสอนดำน้ำขั้นพื้นฐาน สำหรับบุคคลที่มีข้อจำกัดทางกายภาพ (โปรแกรมรีเฟชดำน้ำ) ณ จ.พังงา ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดของภาคใต้ ประเทศไทย ละติดอันดับโลก นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโปรแกรมทัวร์วัฒนธรรมที่จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
ขณะที่นายสุวัฒน์ พลอยช่าง ผู้บริหาร บริษัท เจทีเอส (ภูเก็ต) จำกัด กล่าวว่า ตลาดกลุ่มนี้เป็นตลาดที่มีแต่จะเติบโตมากขึ้น นักท่องเที่ยวซึ่งมีข้อจำจัดทางด้านร่างกายทั้งชาวไทยและต่างชาติ เป็นอีกกลุ่มที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว เหมือนกับคนทั่วไป เพราะเขาคิดว่าเขายังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ เพียงแค่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เขา และจากการที่ได้พูดคุยกับทางคณะอาจารย์ โครงการวิจัย “การพัฒนาการตลาดของเครือข่ายการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล กลุ่มประเทศใช้ภาษาเยอรมัน” ทำให้มองเห็นถึงความเป็นไปได้ของตลาด เพียงแต่ว่าในส่วนของประเทศไทย รวมทั้งภูเก็ตเองยังให้ความสำคัญเรื่องนี้น้อยไปหน่อย แต่ปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มมีความตื่นตัวมากขึ้น มีการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการ เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีข้อจำกัดทางกายภาพ ถ้าเราทำได้จะทำให้เราเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์อย่างแน่นอน
ซึ่งจากการที่ตนมาทำทัวร์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังในการใช้จ่ายสูง การเดินทางของเขาจะมาเป็นคู่ และการเดินทางไปเที่ยวตามที่ต่างๆ จะต้องมีผู้ดูแล ซึ่งนักท่องเที่ยวพร้อมจะจ่าย เพียงแต่ผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับตัวในการสร้างสิ่งรองรับสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เพราะตลาดยังมีมากพอสมควร
เช่น นักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับเรือสำราญ มีบางคนที่ต้องนั่งรถเข็น หรือมีปัญหาเดินไม่ได้ แต่เขาอยากลงมาเที่ยว พอเขารู้ว่าเรามีบริษัททัวร์ที่สามารถได้บริการพาเขาไปท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ ทำให้เขารู้สึกดีใจมาก และมีการบอกต่อ ทำให้มีลูกค้าเรียกใช้ต่อเนื่อง และเชื่อว่าในอนาคต ถ้าเรามีสิ่งอำนวยความสะดวก มีทางลาด มีร้านอาหารบริการ มีเรือท่องเที่ยว มีโรงแรมรองรับ จะมีนักท่องเที่ยวที่มีข้อจำกัดทางด้านกายภาพเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแน่นอน