นครศรีธรรมราช - ตำรวจ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ไล่รวบไอ้คลั่งหลอนยากลางสวนทุเรียน หลังพยายามฉกจักรยานยนต์หมายหนีต่อแต่ไม่รอด พบประวัติคลั่งยาควงปืนไล่ยิงไล่ขู่ชาวบ้าน ติดคดีแทงตำรวจ
วานนี้ (7 มี.ค.) เมื่อช่วงเย็น พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.ท่าศาลา นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวนายชาญณรงค์ หรือแป๊ะ แซ่จ่อง อายุ 49 ปี ชาวหมู่ 2 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ติดตามนายชาญณรงค์ลัดเลาะสวนทุเรียนในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลตลิ่งชัน โดยนายชาญณรงค์พยายามโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนบ้านที่จอดอยู่พร้อมเสียบกุญแจคาไว้ ในขณะที่พยายามสตาร์ทเครื่อง เจ้าหน้าที่ได้เข้าชาร์จคุมตัวไว้ได้พร้อมอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม. กระสุนจำนวน 11 นัด เครื่องกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 3 นัด หลังจากนั้นได้คุมตัวไปค้นบ้านพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดจำนวนหนึ่ง และลำกล้องอาวุธปืนยาวประดิษฐ์เอง 1 ชิ้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงเที่ยงวานนี้ (7 มี.ค.) ครอบครัวของนายชาญณรงค์ ซึ่งได้ย้ายหนีออกจากบ้านไปอาศัยบ้านญาติอยู่ชั่วคราวเนื่องจากทนไม่ไหวเกรงอันตรายจากอาการคุ้มดีคุ้มร้ายเนื่องจากการเสพยาเสพติดของนายชาญณรงค์อย่างหนัก และกลุ่มญาติได้ร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้เข้าคุมตัว และพบว่านายชาญณรงค์ยังอยู่ในระหว่างการรอลงอาญาจากคดีคลุ้มคลั่งทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และไล่แทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมาก่อเหตุกับชาวบ้านด้วยการใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวยิงขู่ชาวบ้าน จากอาการหวาดระแวง และเมื่อระแวงสงสัยว่าใครจะมาทำร้ายจะขับรถจักรยานยนต์นำอาวุธปืนไปยิงขู่จนสร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก
ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมตัวนายชาญณรงค์ ได้เตร็ดเตร่วนเวียนที่บ้านของชาวบ้านรายหนึ่งเจ้าของบ้านได้หลบอยู่ในบ้านด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้ชักปืนขู่เจ้าหน้าที่แล้ววิ่งหนีลัดเลาะสวนทุเรียนโดยเจ้าหน้าที่ไล่ตามไปด้วยความระวังเนื่องจากนายชาญณรงค์มีอาวุธปืนติดตัว จนกระทั่งพยายามขโมยรถจักรยานยนต์ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าชาร์จถึงตัวและคุมตัวได้ในที่สุด
ภายหลังได้ถูกแจ้งข้อหาความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ทั้งพกพา ครอบครองไม่ได้รับอนุญาต มีเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และพบสารเสพติดในปัสสาวะ จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมคือเสพยาเสพติดประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต ขับขี่รถจักรยานยนต์ในขณะที่สารเสพติดประเภท 1 ในร่างกาย และจะได้ทำรายงานไปยังศาลจังหวัดนครสรีธรรมราชสำหรับพฤติการณ์ก่อเหตุซ้ำซากในระหว่างการรอลงอาญาเพื่อศาลจะได้พิจารณาบังคับโทษตามคดีแรกต่อไปแล้ว