ปัตตานี - ผู้การฯ ปัตตานีแถลงข่าวจับมือระเบิดฐาน ตชด.กรือเซะ ได้แล้ว 1 คน นำตัวมาสอบเค้นจนสารภาพซัดทอดเพิ่มอีก 3 คน ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
วันนี้ (7 มี.ค.) พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้ทำการแถลงข่าวผลการปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนคดีและติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดฐานปฏิบัติการ หมวดเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 9223 บ้านกรือเซะ หมู่ที่ 3 ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.68
จากนั้นเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 3 คน ใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน เป็นพาหนะ ขับเข้าออกภายในเส้นทางใกล้จุดเกิดเหตุ โดยมีลักษณะพิรุธและต้องสงสัย จึงได้ตรวจสอบกล้องตามทางที่ผู้ต้องสงสัยเดินทางไปจนสุดบ้านเมาะมาวี อ.ยะรัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนและสอบถามจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ทราบว่าบุคคลต้องสงสัยเป็นราษฎรในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบบุคคลเป้าหมาย ทราบชื่อคือ นายวันมูฮัมหมัดฮัมดี ยะหริ่ง ผลการปฏิบัติพบตัว นายวันมูฮัมหมัดฮัมดี และตรวจยึดรถจักรยานยนต์รวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ จึงได้นำตัว นายวันมูฮัมหมัดฮัมดี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายวันมูฮัมหมัดฮัมดี ให้การสารภาพว่า ตนมีส่วนร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดฐานปฏิบัติการ หมวดเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 9223 กรือเซะ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.68 จริง และซัดทอดผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มเติมอีก 3 คน ประกอบด้วย นายอับดุลเราะห์มัน อิ นายดลยา เกมตาสา และนายอัฟดอล สีอีนิง ซึ่งทั้ง 3 คนอยู่ในระหว่างการหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังครอบครัวให้นำตัวบุคคลทั้ง 3 คน มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์และต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ นายวันมูฮัมหมัดฮัมดี เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปชี้จุดซุกซ่อนอุปกรณ์ประกอบระเบิด และจุดทำการทดลองจุดระเบิด
ต่อมา วันที่ 3 มี.ค.68 ศาลจังหวัดปัตตานีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 คนจากเหตุดังกล่าว และเมื่อวันที่ 5 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมจับกุม นายวันมูฮัมหมัดฮัมดี ยะหริ่ง ตามหมายจับที่ จ.87/2568 ฐาน “ร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด และร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน” ส่งพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายวันมูฮัมหมัดฮัมดี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในการจับกุมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน โดยเฉพาะภาคประชาชนที่ร่วมกันแจ้งข่าว และเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ จึงสามารถดำเนินการจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด