xs
xsm
sm
md
lg

อช.พีพี ทำความเข้าใจผู้ประกอบการ ไกด์ นักท่องเที่ยวให้ทำตามกฎ ฝ่าฝืนจำคุก 5 ปี ปรับ 5 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระบี่ - อช.พีพี เร่งทำความเข้าใจผู้ประกอบการ ไกด์ นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎข้อห้ามในการเข้าท่องเที่ยวพื้นที่อุทยาน ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ 


นายแสงสุรี ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ พร้อมด้วย นายอดิศักดิ์ เหงี่ยมสระน้อย และนายวราวิทย์ จิตรัว ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และเจ้าพนักงานของอุทยาน เดินรณรงค์ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว รวมถึงไกด์หรือมัคคุเทศก์ ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ


ให้ทราบถึงการปฏิบัติตนเกี่ยวกับกฎข้อบังคับและข้อห้าม และความผิดรวมถึงข้อควรปฏิบัติในการเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ทางบกและทางทะเล เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เช่น ห้ามเก็บปะการัง กัลปังหา เปลือกหอย ห้ามลงเล่นน้ำในที่ไม่ได้มีทุ่นสำหรับลงเล่นน้ำ ห้ามนำและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการัง ห้ามให้อาหารปลาและลิง ห้ามใช้โดรนบินในพื้นที่หากไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น


หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบัน ยังมีนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งลักลอบเก็บและหาเปลือกหอย ปะการัง กัลปังหา และสัตว์น้ำ นำออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ดังนั้นอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้เล็งเห็นปัญหาและให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงจัดกิจกรรมเดินรณรงค์ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการนำเที่ยวและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้มีการชี้แจงกฎระเบียบและข้อควรปฏิบัติในการท่องเที่ยวในเขตอุทยาน


เช่น ช่วยกันนำขยะออกจากพื้นที่อุทยาน ไม่ก่อกองไฟในเขตอุทยาน ไม่นำภาชนะที่ทำด้วยโฟมเข้าไปในอุทยาน ไม่ส่งเสียงดัง ไม่ให้อาหารสัตว์ป่าและไม่สัมผัสสัตว์ป่า ไม่เก็บพืช ดอกไม้ จับสัตว์และนำสิ่งต่างๆ ออกจากอุทยาน ไม่ขีดเขียนในที่ต่างๆ ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในอุทยาน

หากผู้ใดฝ่าฝืนกฎข้อบังคับดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่สามารถเชิญบุคคลนั้นออกจากพื้นที่อุทยานทันที หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่เห็นสมควร เพื่อป้องกันระงับหรือบรรเทาความเสียหายแก่อุทยาน ผู้ใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำการไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุทยาน ผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหายหรือเสียหาย เป็นต้น


ผู้ใดเก็บหานำออกไปกระทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวิภาพ หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในอุทยานแห่งชาติ อันเป็นการฝ่าผืนมาตรา 19 วงเล็บ 2 ต้องระวางโทษจำคุกไม้เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


กำลังโหลดความคิดเห็น