สตูล - พี่ชายพ่อเลี้ยงคลุ้มคลั่งจากฤทธิ์ยาเสพติดเหวี่ยงเด็กชายวัย 2 ขวบกระแทกพื้นดับสยองขณะส่งโรงพยาบาล เผยเคยบำบัดหลายครั้งแต่กลับไปเสพซ้ำ แม่ของเด็กล้างจานอยู่ที่หลังบ้าน ไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่หมู่ 3 บ้านคลองลิดี ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล เกิดเหตุเด็กชายวัยเพียง 2 ขวบต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าขณะถูกนำส่งโรงพยาบาล หลังถูกลุง ซึ่งเป็นพี่ชายพ่อเลี้ยง ซึ่งมีอาการคลุ้มคลั่งจากฤทธิ์ยาเสพติด จับตัวเหวี่ยงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง 2 ครั้งซ้อน
จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายอับดุลอาซีด ยาวาหาบ อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุได้ในที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหายังคงมีอาการผิดปกติ พูดคนเดียว แต่รับสารภาพว่าตนเป็นผู้เหวี่ยงเด็กกระแทกพื้นจนเสียชีวิตจริง และไม่ได้ขัดขืนการจับกุมแต่อย่างใด
พี่ชายของผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า ขณะที่ตนนอนพักอยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียงดังตุบ 2 ครั้ง จึงรีบออกมาดูและพบเด็กนอนสลบแน่นิ่งอยู่แล้ว จึงรีบแจ้งเหตุและนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่น่าเศร้าที่เด็กเสียชีวิตระหว่างทาง
ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีประวัติติดยาเสพติดมานาน ถึงแม้จะผ่านการบำบัดมาหลายครั้ง แต่กลับไปเสพซ้ำอยู่เรื่อยๆ ขณะเกิดเหตุเชื่อว่าผู้ต้องหามีอาการคลุ้มคลั่งจากฤทธิ์ของยาเสพติด จนนำไปสู่การกระทำรุนแรงต่อเด็ก
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องหาและเด็กผู้เสียชีวิตนั้น เป็นญาติกันโดยแม่ของเด็กมีศักดิ์เป็นน้องสะใภ้ของผู้ต้องหา บ้านของทั้งสองครอบครัวอยู่ใกล้กัน และปกติเด็กกับผู้ต้องหามีความคุ้นเคยกันดี ขณะเกิดเหตุแม่ของเด็กล้างจานอยู่ที่หลังบ้าน ไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์สลดใจที่เกิดขึ้น
นายอนุสรณ์ อุเส็น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.สาคร เล่าว่า หลังทราบเหตุได้รีบแจ้งตำรวจเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ยังคงอยู่ในอาการผิดปกติ ด้านตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด พล.ต.ต.มารุต เรืองจินตนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เพ็ชรรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าแพ พ.ต.ท.อาบูบากาด ดาแลหมัน สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรท่าแพ ร.ต.อ.นุกูล จิตรเพชร พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าแพ นายขจรศักดิ์ เจ๊ะแอ กำนันตำบลสาคร นายอนุสรณ์ อุเส็น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.สาคร และตำรวจ สภ.ท่าแพ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหารือแนวทางป้องกันแก้ไขกรณีเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและเสียชีวิต
เหตุการณ์สลดใจครั้งนี้สะท้อนถึงปัญหายาเสพติดที่ยังคงเป็นภัยร้ายแรงในสังคม โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กผู้บริสุทธิ์ แม้จะมีมาตรการการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด แต่การกลับไปเสพซ้ำยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ท้าทายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เตรียมหารือถึงมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันในกรณีผู้มีประวัติเสพยาเสพติดที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดกับเด็กและเยาวชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยในอนาคต ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังคงตกอยู่ในความโศกเศร้า