นครศรีธรรมราช – เกิดเหตุหญิง 16 ปีท้องแก่น้ำเดินไม่ยอมไปโรงพยาบาล ขับไล่กู้ภัยที่เข้าไปช่วย ก่อนที่ต่อมาจะคลอดลูกเองและพบลูกเสียชีวิตคาที่นอน แต่ยังดื้อไม่ยอมไป รพ. แม้อยู่ในสภาพตกเลือด ตร.ขู่บังคับก่อเร่งคลี่ปมเป็นการฆาตกรรมหรือไม่
วันนี้ (26 ก.พ.) ตำรวจ สภ.เมืองนครสรีธรรมราช รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ ขอกำลังเข้าช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ หลังจากรับแจ้งพบหญิงคลอดลูกเองในบ้านเช่าแล้วลูกเสียชีวิต โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าหญิงรายนี้นั่งซมอยู่ในห้องน้ำหลังบ้าน ในสภาพตกเลือดจนขาบวมเท้าบวม แต่ยืนกรานไม่ยอมไปโรงพยาบาล จนตำรวจต้องขู่แกมบังคับจึงยอมไป ทราบชื่อคือ นางสาว จ. อายุ 16 ปี
ส่วนในห้องนอนพบศพทารกเพศหญิงแรกคลอด มีรกสายสะดือครบถ้วน มีชายนั่งซึมเพ่งมองศพทารกไม่ห่าง ไม่ยอมพูดจากับใคร ทราบต่อมาคือพ่อของเด็กทารกรายนี้ อายุราว 20 ปี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในบ้านเบื้องต้นพบว่าเต็มไปด้วยเลือดหลายจุด บางจุดเป็นลิ่มเลือดกองใหญ่ จากนั้นจึงกั้นที่เกิดเหตุ ส่วนพ่อของเด็กไม่ยอมออกจากห้อง เจ้าหน้าที่พยายามให้เพื่อนบ้านเข้าเจรจา
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยบยืนยันว่าเวลาประมาณ 10.00 น. ชาวบ้านได้แจ้งขอความช่วยเหลือนำตัวหญิงรายดังกล่าวไปส่งโรงพยาบาลจากอาการน้ำเดินใกล้คลอด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามเข้าช่วยเหลือหญิงรายนี้กลับถือมีดและใช้สิ่งของในบ้านขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และปฏิเสธไม่ยอมไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องล่าถอยออกไป
จนกระทั่งเวลา 14.30 น.ได้รับแจ้งอีกครั้งยังจุดเดิม เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าถึงที่เกิดเหตุจึงพบว่าหญิงคนนี้อยู่ในสภาพตกเลือดอย่างหนัก โวยวายไม่ยอมไป รพ.เช่นเดิม ส่วนบนที่นอนพบว่าเด็กคลอดออกมาแล้ว แต่อยู่ในสภาพเสียชีวิตไปแล้ว จึงรีบแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจเข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามชาวบ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุยืนยันว่า ทั้งสามีและภรรยามีอาชีพรับจ้างในตลาด ช่วงเช้าหญิงคนนี้อาละวาดมาแล้วครั้งหนึ่ง ชาวบ้านเห็นความผิดปกติรู้ว่าท้องแก่ใกล้คลอดแต่กลับปฏิเสธว่าไม่ได้ท้องจนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น เชื่อว่าเด็กคลอดมาในสภาพสมบูรณ์ แต่มาเสียชีวิตภายหลัง อยากขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบย่างละเอียด
ขณะนี้พนักงานสอบสวนเวร พร้อมแพทย์ชันสูตรได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและนำร่างของทารกรายนี้ไปชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต ว่าเป็นการเสียชีวิตมาจากในครรภ์ หรือเสียชีวิตภายหลังหรือไม่ โดยหากพบว่ามีร่องการทำให้เสียชีวิตจะต้องเร่งสอบสวนแม่อย่างละเอียด เนื่องจากถือเป็นการฆาตกรรม
