xs
xsm
sm
md
lg

บุกจับจีนเทาในภูเก็ตเปิดธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร วิลล่าหรู มูลค่ากว่า 1,000 ล้าน ใช้นอมินีบังหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ภ. 8 สนธิกำลังทลายเครือข่ายทุนต่างชาติ 29 เป้าหมาย 7 จังหวัด บุกจับนายทุนจีนในภูเก็ต เปิดธุรกิจใช้คนไทยบังหน้า ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร วิลล่าหรู มูลค่ากว่า 1,000 ล้าน ขณะที่ ตร.ภูเก็ตขยายผลจับนอมินีคนไทยดูแลบริษัทต่างชาติ 13 แห่ง


วันนี้ (25 ก.พ.) พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เลิศชาย จำปาทอง ผบก.สส.ภ.8 พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าว การระดมกำลังกวาดจับกุมเครือข่ายชาวต่างชาติ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวน และจับกุมบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาพำนักในราชอาณาจักรโดยมีพฤติการณ์กระทำความผิดทางอาญา ประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนกฎหมาย หรือดำเนินกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน


ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากการที่บุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยอาศัยรูปแบบการจัดตั้งนอมินี เพื่ออำพรางการดำเนินธุรกิจ ได้รับผลประโยชน์โดยไม่ต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลสัญชาติไทยบางกลุ่ม รวมถึงสำนักงานบัญชีที่ให้คำแนะนำในการดำเนินการลักษณะดังกล่าว ส่งผลให้รัฐได้รับความเสียหาย และประชาชนได้รับผลกระทบจากการแข่งขันทางธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม


ตำรวจภูธรภาค 8 ได้ดำเนินการตรวจสอบและปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ในเขตตำรวจภูธรภาค 8 รวม 29 เป้าหมาย ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 23 ราย โดยคดีสำคัญ คือ การจับกุมบุคคลสัญชาติจีน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีพฤติการณ์อำพรางการดำเนินธุรกิจ โดยให้บุคคลอื่นถือครองแทนในลักษณะนอมินี ในธุรกิจต่างๆ ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม โรงเรียนนานาชาติ โรงแรม ธุรกิจให้เช่ารถยนต์ คอนโดมิเนียม และโครงการบ้านจัดสรร (วิลล่าหรู) รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท


นอกจากนี้ ได้มีการตรวจยึดเงินสดจำนวน 4,108,000 บาท เพื่อนำไปตรวจสอบ และดำเนินการตรวจค้นสำนักงานบัญชีที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนและจัดทำเอกสารอำพรางธุรกิจของบุคคลต่างด้าว สำหรับการเข้าจับกุมคนจีนดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 ได้เข้าตรวจสอบคาเฟ่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีการนำสิงโตมาให้ลูกค้าถ่ายรูป และมีการจ้างงานคนต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้มีการสอบสวนขยายผลจนทราบว่าคาเฟ่ดังกล่าวเป็นของคนจีนที่เข้ามาอยู่ที่ภูเก็ตหลายปีแล้ว และพบว่ามีการทำธุรกิจหลายอย่างโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี


นอกจากนั้น ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีการระดมกำลังเข้าตรวจค้นสำนักงานทนายความ และบริษัทต่างๆ ในหลายพื้นที่ ทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี และอื่นไ ไม่น้อยกว่า 100 แห่ง ตามเป้าหมายที่ได้รับ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจค้น


ขณะที่ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกำลังหลายหน่วย นำ 9 หมายค้น ออกปฏิบัติการ 14 เป้าหมาย ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต่างๆ เช่น ขายส่งดอกไม้ ต้นไม้ วิศวกรรม ร้านอาหาร แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านเทคนิค ประกอบธุรกิจปลูกพืช การผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ ภัตตาคาร ร้านอาหาร การรับเลี้ยงเด็ก ให้เช่ารถ และธุรกิจที่เกี่ยวกับกัญชา ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมคนไทยเครือข่ายนอมินี “นาย บ.” ซึ่งเกี่ยวของกับการถือหุ้นในบริษัทชาวต่างชาติมากถึง 13 บริษัท


ทั้งนี้การเข้าจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมสถานรับเลี้ยงเด็กในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และได้มีการสอบสวนขยายผล จนทราบว่า “นาย บ.” ได้ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในหลายบริษัท รวมแล้วมีมากถึง 13 บริษัท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำเอกสารต่างมาตรวจสอบ นอกจากนั้นยังได้มีการจับกุมชาวออสเตรเลีย 1 ราย และชาวพม่าอีก 6 ราย นำตัวทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย


อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติ และ ต่างด้าวที่เข้ามาเปิดธุรกิจ โดยใช้คนไทยบังหน้านั้นทางตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่าจะมีการดำเนินการอย่างเข้มงวด และตรวจสอบอย่างเข้มข้นอย่างแน่นอน จะไม่ทำแบบไฟไหม้ฟาง ถ้ามีการจับกุมจะสั่งขยายผลต่อเนื่องทุกพื้นที่ พร้อมสั่งการตรวจสอบกลุ่มคนไทยที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือบริษัทนอมินี ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจคนไทยและระบบเศรษฐกิจ


สำหรับปฏิบัติการทลายเครือข่ายนอมินี ถือเป็นการป้องกันปราบปรามการถือครองสินทรัพย์โดยผิดกฎหมาย ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจังหวัดและประเทศในระยะยาว และจากการตรวจสอบ พบกลุ่มทุนนอมินีมีหลายชาติ ทั้งรัสเซีย จีน ออสเตรเลีย แอฟริกา และจากการตรวจสอบเชิงลึกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีมากกว่า 200 แห่ง ทุกหน่วยเร่งเดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง ตั้งเป้าหมายเอาผิดทั้งกลุ่มทุนต่างชาติและคนไทยที่ให้การสนับสนุน


นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 23.00 น. ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการจับกุม ขบวนการลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า โดยการจับกุมผู้ต้องหา นายมานิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมด้วยรถบรรทุกฮีโน่ 1 คัน และพ็อตบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 50,000 ชิ้น ริมถนนสายเอเชีย 41 อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยกล่าวหาว่าผู้ต้องหาช่วยซ่อนเร้น จำหน่าย หรือรับไว้ซึ่งสินค้าที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศ








กำลังโหลดความคิดเห็น